กระบอกลมนิวเมติกส์ Thai-A รุ่น 1500-1600 Series
กระบอกลมนิวเมติกส์ Thai-A รุ่น 1500-1600 Series
บริษัท Thai-A เป็นตัวแทนจำหน่ายกระบอกลมนิวเมติกส์และอุปกรณ์นิวเมติกส์ของประเทศไทยที่มีคุณภาพและได้รับความเชื่อถือจากบริษัทแม่อย่าง Pneumax จากอิตาลี อย่างเป็นทางการมากว่า 40 ปี ซึ่งในบทความนี้แอดมินจะมารีวิวกระบอกลมนิวเมติกส์ของ Pneumax รุ่น 1500-1600 Series กันค่ะ
สารบัญ
- 1500 SERIES
- 1540-1550 EUROPE COMPACT SERIES
- 1560-1580 EUROPE COMPACT CYLINDERS SERIES
- 1605 SERIES
- บทสรุป
1500 SERIES
เป็นกระบอกลมนิวเมติกส์ขนาดกะทัดรัดพร้อม Stroke ระยะสั้น ที่เหมาะกับการทำงานที่มีพื้นที่ค่อนข้างเล็ก เพราะลักษณะเด่นของกระบอกลม Series นี้คือ ระยะรวมสั้นมาก ๆ เมื่อเทียบกับกระบอกลมนิวเมติกส์ทั่วไป Speed กระบอกที่เร็วกว่า จึงสามารถ Lock หรือเคลื่อนที่ในระยะสั้น ๆ ได้แม้อยู่ในพื้นที่ที่จำกัด เหมาะสำหรับงานประเภท Jig and Fixture ,งาน Clamp lock,งาน Stopper
1540-1550 EUROPE COMPACT SERIES
เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์กระบอกลมนิวเมติกส์ใน Series EUROPE COMPACT แบบใหม่ที่ผลิตขึ้นตามมาตรฐาน ISO 21287 เป็นตัวแทนของกระบอกลมขนาดกะทัดรัดรุ่นล่าสุดของ เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมด ด้วยกระบวนการผลิตที่สะอาดและถูกต้องตามมาตรฐาน ซึ่งเครื่องจักรปัจจุบันมีความนิยมมาอีกรุ่นหนึ่ง โดยเครื่องจักรที่ใช้อุปกรณ์ประเภทนี้ จะอย่ในกลุ่ม บรรจุภัณฑ์ประเภทอาหาร ขนมคบเคี้ยวทั่วไป อาหารประเภทแบบใส่ซอง เครื่องดื่มประเภทบรรจุขวด โดยมีขนาดตั้ง Bore 20-100 mm. เป็นกระบอกลมนิวเมติกส์ใน Series ECOMPACT ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางและแกนศูนย์กลางตามมาตรฐาน ISO 15552
1560-1580 EUROPE COMPACT CYLINDERS SERIES
กระบอกลมนิวเมติกส์ Series Europe นี้มีให้เลือกสองรุ่น แตกต่างกันตรงรูยึดโดยมีมาตรฐาน แบบ ISO และ แบบ UNITOP ขนาด ISO มีขนาดเริ่มต้นที่ Bore 32-100 mm. ส่วน สเปค UNITOP มีขนาดเริ่มต้นที่ 12-100 mm. โดยเครื่องจักรที่ใช้อุปกรณ์ประเภทนี้ จะอยู่ในกลุ่มบรรจุภัณฑ์ประเภทอาหาร ขนมขบเคี้ยวทั่วไป อาหารประเภทแบบใส่ซอง เครื่องดื่มประเภทบรรจุขวด
1605 SERIES
เป็นกระบอกลมนิวเมติกส์แบบไร้แกน หรือ Rodless Cylinder วัตถุประสงค์ของการผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์แบบไม่ใช้ก้านสูบคือ เพื่อให้ทางเลือกในการประหยัดพื้นที่มากกว่ากระบอกลมแบบเดิม การทำงานของกระบอกชนิดนี้จะทำงานเชิง Linear เป็นกระบอกลมนิวเมติกส์แบบไม่มีแกน ที่ใช้เทคโนโลยีการปิดผนึกแถบสแตนเลสที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย และสามารถทำงานหลากหลายรูปแบบ โดยจะทำงานในระบบการแบบเชิงเส้น (linear translation systems) มีขนาดกะทัดรัดมาก และสามารถใช้แทนกระบอกลมนิวเมติกส์ธรรมดาที่มีแกนสูบได้ ลักษณะสำคัญของกระบอกลมแบบมีสายคือไม่มีแกนลูกสูบ ซึ่งจะช่วยประหยัดพื้นที่ในการทำงานของกระบอกลมนิวเมติกส์นั่นเองค่ะ
บทสรุป
กระบอกลมนิวเมติกส์รุ่นข้างต้นที่กล่าวมานั้น อยู่ใน Series 1500 และ Series 1600 โดยเป็นกระบอกลมที่ถูกออกแบบตามมาตรฐาน ISO ทุกตัว และมีรูปแบบหลากหลายให้เลือกตามการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นกระบอกลมนิวเมติกส์แบบมีแกน แบบไม่มีแกนสูบ หรือแบบมีสาย อุปกรณ์เหล่านี้ถูกผลิตโดยบริษัทชั้นนำ Pneumax จากอิตาลี และมี Thai-A เป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยที่ได้รับความน่าเชื่อถือเป็นเวลานาน
สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบนิวเมติกส์ ไม่ว่าจะเป็น กระบอกลมนิวเมติกส์ วาล์วนิวเมติกส์ และปั๊มลมนิวเมติกส์ Thai-A เราเป็นโรงงานผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบนิวเมติกส์มายาวนานกว่า 50 ปี เรายินดีรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ตามสั่ง
บทความที่เกี่ยวข้อง
- สายการผลิตยานยนต์กับระบบนิวเมติกส์
- แนวทางการบำรุงรักษานิวเมติกส์
- การควบคุมระบบนิวเมติกส์แต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร ?
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@teacgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency
สายการผลิตยานยนต์กับระบบนิวเมติกส์
สายการผลิตยานยนต์กับระบบนิวเมติกส์
การผลิตรถยนต์เชิงพานิชย์ในประเทศไทยมีเกือบทุกแบรนด์ที่มีจำหน่ายในประเทศไทย มีทั้งฐานการผลิต ฐานการประกอบ รวมทั้งฐานการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ฐานการผลิต เช่น Toyota, Isuzu, Mitsubishi, Honda เป็นต้น ส่วนฐานการประกอบ เช่น BMW, Triumph Ducati, Harley-Davidson ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้ฐานในประเทศไทยผลิตและประกอบทั้งหมด ทำให้ประเทศไทยมีการจ้างงานในกลุ่มนี้เป็นจำนวนมาก โดยผลพวงเช่นนี้ทำให้เกิดการผลิตชิ้นส่วนพ่วงมาอีก 1 ระบบ ซึ่งทั้งหมดนี้จะมีการใช้ระบบนิวเมติกส์เป็นส่วนการผลิตเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น สายการประกอบรถยนต์ สายการผลิตชิ้นส่วน ซึ่งรถยนต์มีอุปกรณ์ชิ้นส่วนเป็นจำนวนหลายหมื่นชิ้น
ซึ่งในระบบส่วนนี้ใช้ระบบนิวเมติกส์ค่อนข้างมากพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นกระบอกลมนิวเมติกส์ วาล์ว สายลม ข้อต่อ ในสเปคที่ค่อนข้างพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น กันสะเก็ดไฟเชื่อม ทนต่อความร้อน และการเคลื่อนที่ต้องมีความคล่องตัวสูง
ชิ้นส่วนระบบนิวเมติกส์
ส่วนนี้จะพิเศษ ตัวอย่างชิ้นส่วนนิวเมติกส์ เช่น
สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบนิวเมติกส์ ไม่ว่าจะเป็น กระบอกลมนิวเมติกส์ วาล์วนิวเมติกส์ และปั๊มลมนิวเมติกส์ Thai-A เราเป็นโรงงานผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบนิวเมติกส์มายาวนานกว่า 50 ปี เรายินดีรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ตามสั่ง
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@teacgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency
มารู้จักข้อต่อลม(Fitting)กันเถอะ
มารู้จักข้อต่อลม(FITTING)กันเถอะ
ฟิตติ้งลม Fitting คืออะไร ? ฟิตติ้งหรือข้อต่อลม คือ ข้อต่อสำหรับเสียบสายลม ที่ใช้กับระบบนิวเมติกส์โดยมีหน้าที่เป็นตัวกลางการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์นิวเมติกส์กับสายท่อลม หรือเชื่อมต่อระหว่างสายท่อลมด้วยกันเป็นต้น ดังนั้นจึงเป็นอุปกรณ์ตัวหนึ่งที่สำคัญเช่นกันในระบบนิวเมติกส์
ในปัจจุบันข้อต่อลม หรือ Fittings เป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ที่ใช้ในระบบเครื่องจักรที่มีระบบลมนิวเมติกส์ควบคุม หรือใช้ในอุปกรณ์อื่นๆ มีระบบลมเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะทำให้งานต่อหรือถอดเปลี่ยนอุปกรณ์และสายลมเป็นงานง่าย สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยขึ้น เพียงแค่กดและดึงเบาๆ ก็สามารถถอดและต่อได้อีกทั้งยังราคาไม่แพง จึงทำให้เป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน
ข้อต่อลม หรือ Fitting มีแบบใดบ้าง ?
โดยชนิดของข้อต่อลมส่วนใหญ่ จะแบ่งออกเป็น 3 ชนิด
- ข้อต่อลมแบบพลาสติก จะเป็นข้อต่อลมที่เป็นพลาสติกล้วน
- ข้อต่อลมแบบโลหะ จะเป็นข้อต่อลมที่เป็นโลหะล้วน ไม่ว่าจะเป็นทองเหลือง สแตนเลส เหล็ก เป็นต้น
- ข้อต่อลมแบบผสม จะเป็นข้อต่อลมที่ด้านนึงเป็นพลาสติก อีกด้านเป็นโลหะ ออกแบบมาเพื่อใช้เชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์นิวเมติกส์กับสายลมได้หลากหลายขึ้น
เลือกข้อต่อลมแบบไหนดี ?
- ทนแรงดันได้เหมาะสมข้อต่อลม หรือ Fittings ที่ดี แน่นอนต้องทนแรงดันในโรงงาน หรือหน้างานได้ โดยส่วนใหญ่แล้ว แรงดันที่ใช้โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 0-12 Bar ดังนั้นคุณสมบัติการทนแรงดัน ไม่ควรน้อยกว่า 5 Bar นั่นเอง และควรมีการป้องกันแรงดันกระชากไม่น้อยกว่า 10 Bar เพื่อความปลอดภัย และป้องกันอุปกรณ์เสียหาย วัสดุที่ใช้ทำข้อต่อลม หรือ Fittings วัสดุที่ใช้ทำ ข้อต่อลม หรือ Fittings ก็สำคัญไม่แพ้กันกับการทนแรงดัน เพราะหากใช้วัสดุเกรดไม่ดี คุณสมบัติไม่เหมาะสม ก็จะทำให้อายุการใช้งานสั้นลง และมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุตามมา หากมีการรั่วขึ้นมา จะทำให้สิ้นเปลืองใช่เหตุ ไม่ว่าจะเป็นการสิ้นเปลืองค่าไฟฟ้าในเครื่องปั้มลมหรือ ปั้มลมทำงานหนักเกิดการสึกเหรอเร็วกว่าปกติ ดังนั้นวัสดุที่ที่นำมาผลิตจึงมีความสำคัญมากพอสมควร วัสดุที่ใช้ทำข้อต่อลมส่วนใหญ่ก็คือ PVC, PTFE, ทองเหลือง, สเตนเลส
- สามารถล็อคแน่นและปลดล็อคง่าย ข้อต่อลม หรือ Fittings ที่ดีนั้น เมื่อต้องใช้ต่อสายลม ต้องต่อได้ง่าย และเขี้ยวล็อคต้องล็อคแน่น ไม่รูด และเมื่อต้องการถอดสายลมก็ถอดได้ง่าย กดปลออดล็อคตัวล็อคได้ง่าย
3. เกลียวต้องได้มาตรฐาน ขันได้แน่น เกลียวของข้อต่อลม หรือ Fittings ต้องได้มาตรฐานขันกับเกลียวมาตรฐานทั่วไปได้ และต้องแน่น ไม่รั่วซึม ซึ่งเกลียวทั่วไปที่นิยมใช้โดยส่วนใหญ่ จะมี M5 , M6 , 1/8″ , 1/4″ , 3/8″ , 1/2″ ,3/4”,1”
สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบนิวเมติกส์ ไม่ว่าจะเป็น กระบอกสูบนิวเมติกส์ วาล์วนิวเมติกส์ และปั๊มลมนิวเมติกส์ เป็นต้น Thai-A เราคือผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบนิวเมติกส์มายาวนานกว่า 50 ปี และเรามีทีมงานที่มากประสบการณ์คอยให้คำปรึกษาสำหรับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับระบบนิวเมติกส์อีกด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง
- การควบคุมระบบนิวเมติกส์แต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร ?
- การเตรียมลมอัดในระบบนิวเมติกส์ขั้นพื้นฐาน
- 4 ประเภทหลักของกระบอกลมนิวเมติกส์
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@teacgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency
การเตรียมลมอัดในระบบนิวเมติกส์ขั้นพื้นฐาน
การเตรียมลมอัดในระบบนิวเมติกส์ขั้นพื้นฐาน
อากาศรอบตัวเรานั้นประกอบไปด้วยไนโตรเจน ออกซิเจน อาร์กอน และก๊าซอื่น ๆ เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซมีเทน เป็นต้น ซึ่งในอากาศบางพื้นที่อาจมีกำมะถัน คาร์บอนมอนอกไซด์ ความชื้น และสิ่งสกปรกปนเปื้อนอยู่ด้วย ทำให้เมื่อผลิตลมอัด โดยการบีบอัดอากาศจากบริเวณแวดล้อมนั้น อาจมีสิ่งปนเปื้อนเล็ดลอดเข้ามาระบบนิวเมติกส์ได้ ฉะนั้นเราจึงต้องมีวิธีการที่มีคุณภาพ และได้รับมาตรฐานในการผลิตลมอัดเพื่อนำไปใช้ในระบบนิวเมติกส์ ซึ่งในบทความนี้แอดมินจะบอกวิธีการเตรียมลมอัดอย่างไรให้มีคุณภาพกันค่ะ
ระดับความบริสุทธิ์สำหรับอากาศอัดตามมาตรฐาน ISO 8573-1
อากาศอัดประกอบไปด้วย 3 องค์ประกอบหลักที่สำคัญที่สุด นั่นก็คือ อนุภาค (Particles) น้ำ (Water) และน้ำมัน (Oil) โดยสามารถจำแนกตามระดับความเข้มข้นในอากาศได้ดังนี้
ISO 8573-1:2010 [A: B: C]
- A – particles | 0 … 8, X
- B – water | 0 … 9, X
- C – oil | 0 … 4, X
แต่ในกรณีที่องค์ประกอบแสดงเป็นคลาส X (องค์ประกอบที่มีความเข้มข้นสูง) ปริมาณหรือระดับความเข้มข้นจะต้องใส่ในวงเล็บเสมอ เหมือนตัวอย่างต่อไปนี้ ISO 8573-1:2010 [4:X(15):3] สมการนี้แสดงถึงความเข้มข้นของน้ำอยู่ที่ Cw 15 g/m3 นั่นเองค่ะ
ในการใช้งานลมในอุตสาหกรรมตามปกติทั่วไป คุณภาพอากาศตาม ISO 8573-1:2010 [7:4:4] ก็เพียงพอแล้วในระบบนิวเมติกส์ แต่ถ้าต้องการนำอากาศอัดไปใช้กับงานเฉพาะด้าน หรือในสภาพแวดล้อมที่แรงกว่าปกติ เช่น ใช้ในงานรถไฟในอุณหภูมิที่เย็นจัด มีความจำเป็นที่จะต้องทำให้ความบริสุทธิ์ของอากาศสูงขึ้นค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง
- เทคนิคการเลือกกระบอกลมนิวเมติกส์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน
- หลักการทำงานของท่อลมนิวเมติกส์ ในโรงงานอุตสาหกรรม
- ข้อควรรู้ก่อนนำเอาระบบนิวเมติกส์มาใช้กับโรงงานอุตสาหกรรม
พื้นฐานเกี่ยวกับการสร้างและการเตรียมลมอัด
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการสร้างลมอัด คือการทำให้แน่ใจว่าลมนั้นไม่มีน้ำมัน (Oil-free) ให้ได้มากที่สุด ในต้นทุนที่ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งการเตรียมลมอัดก็มีลักษณะเช่นเดียวกันกับการสร้างลมอัด โดยในโรงงานผลิตต่าง ๆ สามารถมีปริมาณน้ำมันในอากาศเกินกว่า 10 มก. / ลบ.ม. ได้ ซึ่งน้ำมันเหล่านี้มาจากน้ำหล่อเย็นและของเหลวหล่อลื่นในเครื่องจักร เพราะฉะนั้นคุณภาพของอากาศและลมอัดจึงมีความเกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อม ณ บริเวณนั้นด้วยนั่นเองค่ะ ซึ่งตามหลักมาตรฐาน ISO 8573-1 ลมอัด หรือ oil free จะต้องมีปริมาณน้ำมัน และ oil dust ให้ได้น้อยกว่า 0.01 มก./ลบ.ม.
วิธีการเป่าแห้งลมเพื่อใช้ในระบบนิวเมติกส์
ความชื้นมีอยู่ในอากาศเสมอ แต่จะมากหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิและความดันอากาศ ยิ่งอุณหภูมิในอากาศสูงขึ้นเท่าใด ความสามารถในการกักเก็บน้ำก็จะสูงขึ้นเท่านั้น ทำให้มีความชื้นอยู่ในอากาศมากนั่นเองค่ะ ซึ่งวิธีในการเป่าแห้งลมอัดทางอุตสาหกรรมนั้น มีด้วยกันดังนี้
- Deliquescent dryer ประกอบด้วยภาชนะที่บรรจุวัสดุดูดความชื้น ที่สามารถดูดซับน้ำได้ดี ข้อดี: ไม่ต้องใช้พลังงานเพิ่มเติม ข้อเสีย: ต้องเปลี่ยนวัสดุดูดความชื้นเป็นประจำ
- Desiccant dryer ทำงานโดยให้อากาศไหลผ่านสารดูดความชื้น เช่น ซิลิกาเจล (silica gel) ข้อดี: ไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานเพิ่มเติม และสามารถรีเซ็ตง่าย ๆ โดยการเป่าน้ำออก หรือการล้างเจล ข้อเสีย: ความสามารถในการกักเก็บน้ำของเจลมีจำกัด ทำให้ต้องล้างเจลออกเป็นประจำ
- Membrane dryer โดยต้องมีการกรองอากาศด้วยตัวกรองอากาศที่มีคุณภาพสูงก่อน ก่อนที่จะปล่อยให้ลมไหลผ่านไปยังเส้นใยในเมมเบรน เพื่อดูดความชื้นออกไป ข้อเสีย: การไหลของลมถูกจำกัดไว้ที่ 1,000 ลิตร / นาที
- Refrigerated dryer เป็นไปตามหลักการที่ว่า อากาศที่เย็นกว่าจะสามารถอุ้มน้ำได้น้อยกว่า อากาศคลายความร้อนออก ทำให้ลมเย็นลงไปถึง 3 องศา และเมื่ออากาศเย็นลง จะสูญเสียน้ำและน้ำมันมันออกไป
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับเกร็ดความรู้เกี่ยวกับการเตรียมลมอัดในระบบนิวเมติกส์ หวังว่าผู้อ่านจะสามารถนำเอาความรู้นี้ไปใช้ประโยชน์ได้นะคะ ครั้งหน้าจะเป็นเรื่องราวนิวเมติกส์แบบไหน อย่าลืมติดตามกันนะคะ
สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบนิวเมติกส์ ไม่ว่าจะเป็น กระบอกลมนิวเมติกส์ วาล์วนิวเมติกส์ และปั๊มลมนิวเมติกส์ Thai-A เราเป็นโรงงานผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบนิวเมติกส์มายาวนานกว่า 50 ปี เรายินดีรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ตามสั่ง
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@teacgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency
เจาะลึก! กระบอกลมนิวเมติกส์พร้อมแท่งลูกสูบ ตอนที่ 3
เจาะลึก! กระบอกลมนิวเมติกส์พร้อมแท่งลูกสูบ ตอนที่ 3
เจาะลึก! กระบอกลมนิวเมติกส์ และแล้วเราก็ได้เดินทางมาสู่ตอนสุดท้ายของซีรีส์ เจาะลึก! กระบอกลมนิวเมติกส์แบบมีแกนลูกสูบ ค่ะ ซึ่งในบทความนี้แอดมินจะพูดถึงเรื่องการตรวจจับตำแหน่งกระบอกลมด้วยแม่เหล็ก การควบคุมความเร็วของกระบอกลมนิวเมติกส์ และมาตรฐานของกระบอกลมนิวเมติกส์กันค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง
- เจาะลึก! กระบอกลมนิวเมติกส์แบบมีแกนลูกสูบ ตอนที่ 1
- เจาะลึก! กระบอกลมนิวเมติกส์แบบมีแกนลูกสูบ ตอนที่ 2
การตรวจจับตำแหน่งกระบอกลมนิวเมติกส์ด้วยแม่เหล็ก
ตัวเซ็นเซอร์ (Sensors) เป็นองค์ประกอบที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับระบบอัตโนมัติในอุตสาหกรรม เนื่องจากเซ็นเซอร์จะเป็นตัวสร้างข้อมูลและควบคุมกระบวนการทำงานทั้งหมด ทำให้คนนำเซ็นเซอร์มาใช้ในระบบนิวเมติกส์ เพื่อตรวจจับตำแหน่งของลูกสูบ โดยเซ็นเซอร์ที่ถูกกระตุ้นโดยสนามแม่เหล็กจะถูกประกอบเข้ากับกระบอกลมนิวเมติกส์ และตรงลูกสูบก็จะมีการติดตั้งแม่เหล็กไว้ เพื่อให้เซ็นเซอร์รับสัญญาณได้นั่นเองค่ะ โดยเราสามารถแบ่งประเภทของเซ็นเซอร์หรือสวิตช์ได้ออกเป็น 3 รูปแบบ ดังนี้
- REED switch ประกอบด้วยสายเหล็กนิกเกิล (Nickel-iron wire) สองเส้น และหลอด LEDเพื่อแสดงสถานะการทำงาน
- Inductive, PNP switch โดยทั่วไปมี 3 สาย ทำงานภายในช่วงแรงดันไฟฟ้า 5 V DC ถึง 30 V DC เมื่อแม่เหล็กที่ติดตั้งอยู่ในลูกสูบเข้าใกล้สวิตช์ เซ็นเซอร์จะให้สัญญาณที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน สามารถใช้สวิตช์ “เปิดตามปกติ” และ “ปิดตามปกติ” ได้ โดยจะมีไฟ LED แสดงสถานะของสวิตช์ โดยการทำงานจะใช้สายสัญญาณ – ไปพ่วงกับ LOAD ซึ่งข้อดีของสวิตช์ประเภทนี้คือ มีความทนทานกว่า มีความถี่สูงกว่า REED switch นั่นเองค่ะ
- Inductive, NPN switch โดยทั่วไปมี 3 สาย ทำงานภายในช่วงแรงดันไฟฟ้า 5 V DC ถึง 30 V DC เมื่อแม่เหล็กที่ติดตั้งอยู่ในลูกสูบเข้าใกล้สวิตช์ เซ็นเซอร์จะให้สัญญาณที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน สามารถใช้สวิตช์ “เปิดตามปกติ” และ “ปิดตามปกติ” ได้ โดยจะมีไฟ LED แสดงสถานะของสวิตช์ โดยการทำงานจะใช้สายสัญญาณ + ไปพ่วงกับ LOAD ซึ่งข้อดีของสวิตช์ประเภทนี้คือ มีความทนทานกว่า มีความถี่สูงกว่า REED switch นั่นเองค่ะ
การควบคุมความเร็วของกระบอกลมนิวเมติกส์
ในการควบคุมความเร็วของกระบอกลมนิวเมติกส์ตลอดช่วงชักนั้น เราสามารถใช้ตัวควบคุมการไหล (flow control) เพื่อควบคุมการไหลออกของอากาศช่วงระบายออกในห้องกระบอกสูบ เพื่อให้มีการเคลื่อนที่ได้อย่างคงที่และสม่ำเสมอ
มาตรฐานกระบอกลมนิวเมติกส์
มาตรฐานกระบอกลมนิวเมติกส์ที่พบมากที่สุด มีดังนี้
- ISO 15552 / VDMA 24562 / DIN ISO 6431
- DIN ISO 6432 กระบอกลมแบบกลม
- ISO 21287 กระบอกลมแบบ Compact
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับเกร็ดความรู้เกี่ยวกับกระบอกลมนิวเมติกส์พร้อมแท่งลูกสูบในตอนจบนี้ หวังว่าผู้อ่านจะสามารถนำเอาความรู้นี้ไปใช้ประโยชน์ได้นะคะ ครั้งหน้าจะเป็นเรื่องราวดี ๆ เกี่ยวกับอะไรอย่าลืมติดตามกันนะคะ
สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบนิวเมติกส์ ไม่ว่าจะเป็น กระบอกลมนิวเมติกส์ วาล์วนิวเมติกส์ และปั๊มลมนิวเมติกส์ Thai-A เราเป็นโรงงานผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบนิวเมติกส์มายาวนานกว่า 50 ปี เรายินดีรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ตามสั่ง
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency
เจาะลึก! กระบอกลมนิวเมติกส์แบบมีแกนลูกสูบ ตอนที่ 2
เจาะลึก! กระบอกลมนิวเมติกส์แบบมีแกนลูกสูบ ตอนที่ 2
แอดมินได้พูดถึง Design, Diameter and stroke, และ movement ของกระบอกลมนิวเมติกส์แบบมีแกนลูกสูบ (Cylinders with piston rods) ไปแล้วในตอนที่ 1 และในบทความนี้แอดมินจะอธิบายต่อจากครั้งก่อนเกี่ยวกับจำนวนตำแหน่งของกระบอกลม สัญลักษณ์ ISO และระบบกันกระแทกของกระบอกลมนิวเมติกส์พร้อมแท่งสูบกันค่ะ
เจาะลึก! กระบอกลมนิวเมติกส์แบบมีแกนลูกสูบ ตอนที่ 1
การแบ่งชนิดของกระบอกลมแบบมีแกน สามารถแบ่งได้ดังต่อไปนี้
1. กระบอกลมนิวเมติกส์แบบ single-acting
การทำงานของกระบอกลมแบบ single จะเป็นไปในทิศทางเดียวโดยใช้อากาศอัดเท่านั้น ระยะการชัก (stroke) จะถูกจำกัดด้วยความยาวของสปริง โดยทั่วไปแล้วกระบอกลมแบบ single จะให้จังหวะที่ค่อนข้างสั้น โดยกระบอกลมนิวเมติกส์แบบ single-acting สามารถแบ่งได้เป็น 2 รูปแบบ คือ
- กระบอกลมแบบสปริงหน้า (สปริงอยู่ระหว่างฝาหน้าและลูกสุบ)
- กระบอกลมแบบสปริงหลัง (สปริงอยู่ระหว่างฝาหลังและลูกสูบ)
2.กระบอกลมนิวเมติกส์แบบ double-acting
เป็นกระบอกลมที่ขับเคลื่อนได้ทั้ง 2 ทิศทางด้วยอากาศอัด นิยมใช้กับงานที่ต้องการให้ความยาวของจังหวะ (stroke) ยาวกว่าสปริงที่มีอยู่ในกระบอกลม โดยกระบอกลมสองทิศทางสามารถแบ่งประเภทได้หลากหลาย ดังนี้
- Double-acting cylinders แบบมาตรฐาน
- Double-acting cylinders พร้อมก้านสูบ 2 ด้าน (แบบ PUSH PULL )
- Double-acting cylinders แบบไม่มีแกนหมุน
- Multi cylinders (กระบอกลมหลายตำแหน่ง)
- Tandem cylinders (กระบอกลมแบบควบ)
สัญลักษณ์ ISO
สัญลักษณ์ ISO ถูกคิดขึ้นเพื่อให้สามารถแยกความแตกต่างระหว่างประเภทของกระบอกลมนิวเมติกส์ และการทำงานของแต่ละประเภทได้ ซึ่งสัญลักษณ์ ISO นี้ ไม่ได้บอกถึงขนาด เส้นผ่าศูนย์กลาง และมาตรฐาน ISO นะคะ
ระบบการกันการกระแทกของกระบอกลมนิวเมติกส์
อากาศอัดสามารถเข้าสู่กระบอกลมด้วยความเร็วสูงได้ และหากลูกสูบไปชนฝา หรือหัวกระบอกด้วยความเร็วแล้ว อาจทำให้กระบอกเกิดความเสียหายได้ ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา กระบอกลมนิวเมติกส์ส่วนใหญ่จะติดตั้งโช้คอัพ หรือตัวกันกระแทก เพื่อลดความเร็วของลูกสูบ
การลดแรงกระแทกสามารถทำได้ 2 วิธี คือ
- การใช้โช้คอัพแบบยืดหยุ่น (shock absorbers) ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดในการหลีกเลี่ยงการกระแทกอย่างหนัก โดยประกอบวัสดุที่อ่อนนุ่มระหว่างลูกสูบกับฝาปิด ในรูปแบบของวงแหวนซึ่งมักทำจากโพลียูรีเทน จึงมีการดูดซับแรงกระแทกได้ดี แต่วิธีนี้ต้องใช้กับกระบอกลมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางค่อนข้างเล็ก และห้ามนำไปใช้กับอุปกรณ์ที่ใหญ่กว่า โช้คอัพแบบยืดหยุ่นจะเน้นด้วยลูกศรสีแดงตามรูปภาพด้านล่าง
ระบบกันกระแทกแบบปรับได้ (adjustable cushion) จะใช้ในกรณีที่มีการรับแรงมากขึ้นเนื่องจากความเร็วที่สูงขึ้นหรือกระบอกลมที่มีขนาดใหญ่ขึ้น โดยระดับการกันกระแทก หรือการลดความเร็วนั้น สามารถปรับได้ที่ปลายกระบอกลมทั้งสองข้าง ตามรูปภาพข้างล่าง
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับเกร็ดความรู้เกี่ยวกับกระบอกลมนิวเมติกส์พร้อมแท่งลูกสูบในตอนที่ 2 หวังว่าผู้อ่านจะสามารถนำเอาความรู้นี้ไปใช้ประโยชน์ได้นะคะ และในตอนต่อไป ซึ่งจะเป็นตอนสุดท้ายของซีรีย์นี้ แอดมินจะพูดถึงการตรวจจับตำแหน่งกระบอกลมด้วยแม่เหล็ก การควบคุมความเร็ว และมาตรฐานสากลของกระบอกลมนิวเมติกส์ อย่าลืมติดตามกันด้วยนะคะ
สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบนิวเมติกส์ ไม่ว่าจะเป็น กระบอกลมนิวเมติกส์ วาล์วนิวเมติกส์ และปั๊มลมนิวเมติกส์ Thai-A เราเป็นโรงงานผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบนิวเมติกส์มายาวนานกว่า 50 ปี เรายินดีรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ตามสั่ง
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@teacgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency
เจาะลึกกระบอกลมนิวเมติกส์ ตอนที่ 1
เจาะลึกกระบอกลมนิวเมติกส์ ตอนที่ 1
กระบอกลมนิวเมติกส์เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญที่สุดในระบบนิวเมติกส์ เพราะกระบอกลมนิวเมติกส์จะเป็นตัวถ่ายโอนพลังงานลมเป็นพลังงานกล โดยที่ถูกอัดไว้ หรือ compressed air ไปสู่การเคลื่อนไหว ของกระบอกลมต่อไป
โดยกระบอกลมนิวเมติกส์สามารถแบ่งประเภทได้ตาม:
- Design – การออกแบบ
• กระบอกลมพร้อมแกนลูกสูบ (Cylinders with piston rods)
• กระบอกลมแบบไม่มีก้าน (Rodless cylinders)
• กระบอกลมไดอะแฟรม (Diaphragm cylinders)
• กระบอกลมโรตารี (Rotary cylinders) - Movement – การเคลื่อนที่
• เชิงเส้น (Linear)
• แบบหมุน (Rotary) - Function – การทำงาน
• Single-acting
• Double-acting
• 3- or 4-positions - Cushioning – การกันการกระแทก
• ปรับแรงกระแทกด้วยลม (Adjustable, pneumatic cushioning)
• การกันกระแทกที่ยืดหยุ่น (Flexible cushioning)
• ไม่มีการกันกระแทก (Without cushioning)
เราจะเห็นได้ว่ากระบอกลมนิวเมติกส์สามารถแบ่งออกได้หลากหลายมาก แต่ในบทความนี้ แอดมินจะขอโฟกัสกับกระบอกลมที่พบบ่อยมากที่สุด นั่นก็คือกระบอกลมนิวเมติกส์พร้อมแกนลูกสูบ (Cylinders with piston rods)
Design ของกระบอกลมนิวเมติกส์พร้อมแกนลูกสูบ
กระบอกลมนิวเมติกส์ที่มีก้านลูกสูบส่วนใหญ่จะประกอบด้วยชิ้นส่วนดังนี้
- ท่อ (Tube) ที่ปิดทั้งสองด้านด้วยฝาปิดและส่วนหัว
- ภายในท่อที่เห็นด้านล่างแกนลูกสูบเคลื่อนที่ด้วยลูกสูบของกระบอก (Drive piston)
การเคลื่อนที่ของลูกสูบจะถูกกระตุ้นโดยอากาศอัดซึ่งควบคุมโดยวาล์วปรับทิศทาง ซึ่งทิศทางจะถูกกำหนดโดยห้องที่อนุญาตให้อากาศอัดไหลภายในกระบอกลม และแรงจะถูกถ่ายเทด้วยแกนลูกสูบ ตามรูปภาพข้างล่าง
เส้นผ่านศูนย์กลางและเส้นโครง (Diameter and stroke) ของกระบอกลมนิวเมติกส์พร้อมแท่งลูกสูบ
Diameter คือเส้นผ่าศูนย์กลางของลูกสูบ ซึ่งเส้นผ่านศูนย์กลางของกระบอกลมนิวเมติกส์จะเป็นตัวกำหนดแรงที่สัมพันธ์กับความดันอากาศ
Stroke คือจังหวะ จะเป็นตัวบอกเราว่าลูกสูบยาวกี่มิลลิเมตร เพื่อให้แกนลูกสูบเคลื่อนที่ได้ตามระยะความยาวของลูกสูบ
ซึ่ง 2 ตัวนี้ เป็นสิ่งสำคัญที่สุดของกระบอกลมนิวเมติกส์ โดยเราสามารถอ่านค่า Diameter ,Rod และ Stroke ได้ดังนี้ เช่น กระบอกลม DIP: 40/16×250
- DIP คือประเภทของกระบอกลม / การออกแบบ (DIP = มาตรฐาน ISO 15552 – กระบอกสูบสองชั้น – ตัวกันกระแทกแบบปรับได้ – ลูกสูบแม่เหล็ก)
- 40 คือเส้นผ่านศูนย์กลางของลูกสูบ [มม.]
- 16 คือ ขนาดแกนของกระบอกลม(มม.)
- 250 คือระยะชักของกระบอกลม [มม.]
การเคลื่อนที่ของกระบอกลมนิวเมติกส์พร้อมแท่งลูกสูบ
เราเรียกตำแหน่งปลายทั้งสองของกระบอกลมนิวเมติกส์ว่า ตำแหน่งบวก (positive / plus) และตำแหน่งลบ (negative / minus) โดยตำแหน่งที่แกนลูกสูบอยู่นอกกระบอกลมนิวเมติกส์มากที่สุดจะเรียกว่าตำแหน่งปลายบวก และเมื่อแกนลูกสูบอยู่ข้างในกระบอกลมนิวเมติกส์มากที่สุดจะเรียกว่าตำแหน่งปลายลบ ตามรูปภาพข้างล่างนี้
ในตอนที่ 1 นี้แอดมินจะขอพูดถึงแค่การเคลื่อนที่ของกระบอกลมนิวเมติกส์พร้อมแท่งลูกสูบ และในตอนต่อไปแอดมินจะมาอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับจำนวนตำแหน่งของกระบอกลม สัญลักษณ์ ISO และการกันกระแทกของกระบอกลมนิวเมติกส์พร้อมแท่งสูบกันค่ะ อย่าลืมติดตามตอนต่อไปกันด้วยนะคะ
สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบนิวเมติกส์ ไม่ว่าจะเป็น กระบอกลมนิวเมติกส์ วาล์วนิวเมติกส์ และปั๊มลมนิวเมติกส์ Thai-A เราเป็นโรงงานผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบนิวเมติกส์มายาวนานกว่า 50 ปี เรายินดีรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ตามสั่ง
บทความที่เกี่ยวข้อง
- 4 ประเภทหลักของกระบอกลมนิวเมติกส์
- เทคนิคการเลือกกระบอกลมนิวเมติกส์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน
- หลักการทำงานของท่อลมนิวเมติกส์ ในโรงงานอุตสาหกรรม
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
4 ประเภทหลักของกระบอกลมนิวเมติกส์
4 ประเภทหลักของกระบอกลมนิวเมติกส์
แม้ว่ากระบอกลมนิวเมติกส์จะมีลักษณะรูปร่าง ขนาด และหน้าที่ ที่แตกต่างกันออกไป แต่โดยทั่วไปแล้วกระบอกลมนิวเมติกส์จะอยู่ใน 4 หมวดหมู่หลัก ๆ ที่แอดมินจะบอกในบทความนี้ต่อไป อย่างไรก็ตามยังมีกระบอกลมนิวเมติกส์ประเภทอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อกระบอกสูบนิวเมติกส์ตอบสนองการทำงานเฉพาะทางค่ะ แต่ในบทความนี้แอดมินจะขอพูดถึง 4 ประเภทหลักของกระบอกลมนิวเมติกส์กันค่ะ
ประเภทของกระบอกสูบนิวเมติกส์
1.กระบอกสูบนิวเมติกส์แบบทางเดียว หรือ Single-acting Cylinders
กระบอกลมนิวเมติกส์แบบชั้นเดียว เป็นกระบอกสูบที่ใช้แรงดันในการเคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียว และมีสปริงอยู่ภายใน เพื่อดันลูกสูบกลับเข้าที่ เพื่อให้พร้อมใช้งานในครั้งต่อไป ซึ่งกระบอกลมนิวเมติกส์ประเภทนี้เหมาะกับการโหลดงานที่ไม่มากนัก ขึ้นอยู่กับออกแบบเพื่อให้เหมาะสมกับงาน
2. กระบอกสูบนิวเมติกส์แบบสองทาง หรือ Double-acting Cylinder
กระบอกลมนิวเมติกส์แบบสองทาง เป็นกระบอกสูบที่ใช้แรงของอากาศในการเคลื่อนที่ 2 ทาง ทั้งในการยืดและการหด stroke ซึ่งข้อดีของกระบอกลมนิวเมติกส์แบบสองทาง คือความยาวระยะชักในการออกแบบนี้จะมีไม่จำกัดค่ะ เพียงแต่แกนลูกสูบ หรือ piston rod จะมีความเสี่ยงในการโก่งและงอมากกว่ากระบอกสูบประเภทอื่น ๆ เพราะฉะนั้นผู้ปฏิบัติงานควรทำการคำนวณเพิ่มเติม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย
3.Multi-stage, Telescopic Cylinder
กระบอกลมนิวเมติกส์แบบเหลื่อม หรือที่เรียกกันว่ากระบอกสูบแบบยืดสไลด์ สามารถเป็นได้ทั้งแบบเดี่ยวหรือแบบสองชั้น ซึ่งประกอบด้วยแกนลูกสูบที่ซ้อนกันอยู่ภายในจากใหญ่ไปหาเล็ก ซึ่งสามารถทำระยะชักได้หลากหลายในตัวเดียวกัน โดยประโยชน์หลักของกระบอกลมนิวเมติกส์แบบนี้ คือ ประหยัดเรื่องพื้นที่ในการจัดเก็บของตัวกระบอกและความยาวได้มากกว่ากระบอกทั้งแบบทางเดียวและกระบอกแบบ 2 ทาง ซึ่งเหมาะกับงานที่มีพื้นที่จำกัด
4.กระบอกสูบนิวเมติกส์ประเภทอื่น ๆ
แม้ว่ากระบอกลมแบบทางเดียว และ กระบอกลมแบบสองทาง จะเป็นกระบอกลมนิวเมติกส์ที่นิยมใช้กันมากที่สุด แต่ก็ยังมีกระบอกลมประเภทต่อไปนี้ ซึ่งเป็นกระบอกลมแบบเฉพาะทางค่ะ
• กระบอกลมนิวเมติกส์แบบมีแกน 2 ด้าน หรือกระบอกแบบ PUSH PULL ก้านลูกสูบยื่นผ่านทั้งสองด้านของกระบอกลมทำให้แรงและความเร็วเท่ากันทั้งสองข้าง
• กระบอกลมนิวเมติกส์แบบมีคูชชั่น: กระบอกสูบที่มีการควบคุมไอเสียเพื่อหลีกเลี่ยงการกระแทกระหว่างก้านลูกสูบและฝาปิดกระบอกลม
• กระบอกลมนิวเมติกส์แบบหมุนองศาหรือแอร์มอเตอร์ (AIR MOTOR) ตัวกระตุ้นที่ใช้อากาศเพื่อให้เกิดการเคลื่อนที่แบบหมุน
• กระบอกลมนิวเมติกส์แบบ RODLESS CYLINDER: ไม่มีแกนลูกสูบ ใช้การเชื่อมต่อแบบกลไกหรือแม่เหล็กเพื่อส่งแรงไปยังอุปกรณ์นิวเมติกส์ตัวอื่น ๆ
• กระบอกลมนิวเมติกส์แบบกระแทก (HAMMER): กระบอกลมความเร็วสูงพร้อมฝาปิดท้ายที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อให้ทนทานต่อแรงกระแทกจากการยืดหดของก้านลูกสูบ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับความรู้เรื่องประเภทของกระบอกลมนิวเมติกส์ หวังว่าทุกท่านจะนำเอาความรู้ไปใช้ประโยชน์ได้นะคะ และในครั้งหน้าจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับระบบนิวเมติกส์แบบไหนอย่าลืมติดตามกันนะคะ
สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบนิวเมติกส์ ไม่ว่าจะเป็น กระบอกลมนิวเมติกส์ วาล์วนิวเมติกส์ และปั๊มลมนิวเมติกส์ Thai-A เราเป็นโรงงานผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบนิวเมติกส์มายาวนานกว่า 50 ปี เรายินดีรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ตามสั่ง
บทความที่เกี่ยวข้อง
- เทคนิคการเลือกกระบอกลมนิวเมติกส์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน
- หลักการทำงานของท่อลมนิวเมติกส์ ในโรงงานอุตสาหกรรม
- ข้อดี – ข้อเสีย ของกระบอกลมนิวเมติกส์ทางเดียว
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency
เทคนิคการเลือกกระบอกลมนิวเมติกส์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน
เทคนิคการเลือกกระบอกลมนิวเมติกส์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน
เมื่อคุณต้องการเลือกประเภทของกระบอกลมนิวเมติกส์มาใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม หรือหากคุณต้องการที่จะเลือกซื้อกระบอกลมนิวเมติกส์สักชุดมาใช้ ซึ่งในบทความนี้ก็จะมาแนะนำเคล็ดลับดีๆ ในการเลือกกระบอกลมนิวเมติกส์ที่มีประสิทธิภาพเพื่อการใช้งานกันค่ะ
ตรวจสอบแรงดันของอากาศภายในกระบอกลม
แรงดันอากาศที่จ่ายให้กับกระบอกลมนิวเมติกส์ มีความสำคัญต่อการทำงานเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากที่แรงดันอากาศถูกบีบอัดภายในกระบอกลมนิวเมติกส์เองต้องเหมาะสมกับขนาดกระบอกลม เพื่อทำงานเชิงกลที่สร้างขึ้นโดยโครงสร้างกระบอกสูบเอง ดังนั้นเวลาคุณเลือกซื้อกระบอกลมนิวเมติกส์ คุณควรตรวจสอบแรงดันอากาศของแต่ละรุ่นด้วยว่า เหมาะสมกับการใช้งานของคุณหรือไม่
ตรวจดูท่อในกระบอกนิวเมติกส์
เมื่อมีแรงดันไหลผ่านเข้ากระบอกลมนิวเมติกส์ จะทำให้กระบอกมีการเคลื่อนที่ จึงทำให้อายุการใช้งานของเสื้อสูบกระบอกลมนิวเมติกส์นั้นน้อยลงไปเรื่อยๆ และก่อให้เกิดความสูญเสียเนื่องจากแรงเสียดทานที่เกิดขึ้น ดังนั้นการลดการสูญเสียแรงดันในกระบอกลมนิวเมติกส์ มีความสำคัญอย่างมากต่อประสิทธิภาพโดยรวมของระบบ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพลมอัดที่ดี ต้องลดการสูญเสียแรงดันและตรวจท่อต้องเชื่อมต่อกันอย่างรอบคอบ และภายในจะต้องสะอาดด้วย
เลือกใช้กระบอกลมนิวเมติกส์ให้เหมาะสมกับลักษณะงาน
1. แรงดันอากาศ ต้องตรวจสอบขนาดกระบอกลมนิวเมติกส์ ไม่ว่าจะกระบอกลมนิวเมติกส์ขนาดเล็กหรือกระบอกลมนิวเมติกส์มาตรฐาน และแรงดันอากาศภายในให้เหมาะสม หากแรงดันไม่สม่ำเสมออาจส่งผลต่อระบบและอาจเกิดความผิดพลาดเสียหายได้ อีกทั้งการมีแรงดันที่สูงเกินไปก็อาจจะทำให้ซีลยางชำรุดเสียหายได้
2.คุณภาพอาศต้องดี คือ ลมต้องแห้งไม่มีน้ำและเศษอื่นๆ มาเจือปนในระบบ ยกเว้นสารหล่อลื่นในระบบเท่านั้น
3. น้ำหนักของโหลด ควรมีกระบอกนิวเมติกส์ที่ให้แรงได้มากกว่าโหลด จึงจะทำให้มีประสิทธิภาพในการทำงาน
4. เลือกจากความเร็วของงาน โดยจะแบ่งออกเป็น 3 ระดับ
- ความเร็วต่ำ 4 นิ้ว/วินาที ควรเลือกกระบอกลมนิวเมติกส์ที่ผลิตแรงดันมากกว่า 25% ของโหลด
- ความเร็วปานกลาง 4-6 นิ้ว/วินาที ควรเลือกกระบอกลมนิวเมติกส์ที่ผลิตแรงดันมากกว่า 50% ของโหลด
- ความเร็วต่ำ 16 นิ้ว/วินาที ควรเลือกกระบอกลมนิวเมติกส์ที่ผลิตแรงดันมากกว่าของโหลด 2 เท่า
บทความที่เกี่ยวข้อง
- หลักการทำงานของท่อลมนิวเมติกส์ ในโรงงานอุตสาหกรรม
- ข้อดี – ข้อเสีย ของกระบอกลมนิวเมติกส์ทางเดียว
- ข้อควรรู้ก่อนนำเอาระบบนิวเมติกส์มาใช้กับโรงงานอุตสาหกรรม
ตารางคำนวณหากระบอกลม
ขอบคุณภาพจาก Pneumax S.p.A. ประเทศอิตาลี
สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบนิวเมติกส์ ไม่ว่าจะเป็น กระบอกสูบนิวเมติกส์ วาล์วนิวเมติกส์ และปั๊มลมนิวเมติกส์ เป็นต้น Thai-A เราคือผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบนิวเมติกส์มายาวนานกว่า 50 ปี และเรามีทีมงานที่มากประสบการณ์คอยให้คำปรึกษาสำหรับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับระบบนิวเมติกส์อีกด้วย
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency
หลักการทำงานของท่อลมนิวเมติกส์ ในโรงงานอุตสาหกรรม
หลักการทำงานของท่อลมนิวเมติกส์ ในโรงงานอุตสาหกรรม
หลักการทำงานของท่อลมนิวเมติกส์ ลม คือปัจจัยหลักที่ทำให้ระบบนิวเมติกส์ (Pneumatic System) ทำงาน ส่วนอุปกรณ์ที่สร้างแรงดันลมให้ได้ปริมาณที่ต้องการ เพื่อนำไปใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมนั้น ก็คือปั๊มลมนิวเมติกส์ และเมื่อปั๊มลมนิวเมติกส์ได้อัดอากาศจนมีแรงดันที่มากพอ ก็จะทำการส่งแรงดันลมนี้ไปยังจุดต่าง ๆ ที่ต้องการใช้ ซึ่งกระบวนการนี้ เรียกอีกอย่างว่า การจ่ายลมหรือการกระจายแรงดัน (Pressure Distribution) ซึ่งในบทความนี้แอดมินจะมาอธิบายถึง หลักการจ่ายลมของท่อลมนิวเมติกส์ในโรงงานอุตสาหกรรมกันค่ะ
3 หลักการเดินท่อจ่ายลม
- การเดินท่อลมนิวเมติกส์จะต้องเป็นตามแบบการใช้งานที่เหมาะสม ไม่ยาวหรือสั้นเกินไป
- การต่อหรือแยกท่อลมนิวเมติกส์เพื่อใช้งาน จะต้องต่อจากด้านบนของท่อ Main หรือท่อแยก
- จุดปลายสุดของท่อลมนิวเมติกส์ควรจะมีตัวกรองปลายท่อ เพื่อระบายน้ำออกจากท่อ และป้องกันไม่ให้เกิดความชื้น
2 ลักษณะการเดินท่อจ่ายลมนิวเมติกส์ในโรงงานอุตสาหกรรม
1.การเดินท่อลมนิวเมติกส์แบบแยกสาขา (Branch Line)
การเดินท่อจ่ายลมแบบแยกสาขา เป็นวิธีที่เหมาะกับโรงงานอุตสาหกรรมที่มีขนาดเล็ก และมีอุปกรณ์นิวเมติกส์ที่ไม่มาก เพราะการเดินท่อลักษณะนี้จะไม่เอื้ออำนวยต่อการเพิ่มอุปกรณ์เข้าไปในระบบนิวเมติกส์ ที่ไม่ได้คำนึงถึงความสามารถของเครื่องอัดลมตั้งแต่แรกที่มีการติดตั้งระบบนิวเมติกส์ ทำให้อุปกรณ์นิวเมติกส์ตัวสุดท้ายในระบบไม่สามารถทำงานได้นั่นเองค่ะ
2. การเดินท่อลมนิวเมติกส์แบบวงแหวน (Ring Circuit)
การเดินท่อจ่ายลมแบบวงแหวน เป็นการวางท่อลมรอบโรงงานอุตสาหกรรม สามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือการต่อแบบแยก และการต่อแบบวงแหวน ซึ่งการจ่ายลมด้วยวิธีแบบนี้สามารถแก้ปัญหาเรื่องความดันตกได้ อีกทั้งยังทำให้ความดันลมในท่อมีความสม่ำเสมอกันในทุกจุด แม้จะมีการใช้ปริมาณลมอัดที่มากก็ตาม
ลักษณะการจ่ายลมด้วยท่ออ่อน
เป็นการจ่ายลมโดยต่ออุปกรณ์นิวเมติกส์ ระหว่างอุปกรณ์ เช่น วาล์วนิวเมติกส์ ชุดกรองลม กับ fitting เพื่อความสะดวกในการทำงานของระบบนิวเมติกส์ค่ะ ซึ่งวัสดุที่นำมาผลิตเป็นท่ออ่อนนั้น แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ
- ท่ออ่อนที่ทำจากวัสดุประเภท Polyurethane (PU) เพื่อสะดวกในการทำงานในพื้นที่จำกัด สามารถโค้งงอได้ดี
- ท่ออ่อนที่ทำมาจากวัสดุพลาสติก เช่น Nylon และ Soft Nylon เป็นต้น ซึ่งสามารถทนแรง pressure ได้ดี แต่มีข้อจำกัดเรื่องการทำงานในพื้นที่แคบ
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ข้อดี – ข้อเสีย ของกระบอกลมนิวเมติกส์ทางเดียว
- ข้อควรรู้ก่อนนำเอาระบบนิวเมติกส์มาใช้กับโรงงานอุตสาหกรรม
- 10 ข้อคำนึงเมื่อต้องทำงานกับระบบนิวเมติกส์
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับความรู้เรื่องหลักการและลักษณะการจ่ายลมของท่อลมนิวเมติกส์ หวังว่าทุกท่านจะนำเอาความรู้ไปใช้ประโยชน์ได้นะคะ และในครั้งหน้าจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับระบบนิวเมติกส์แบบไหนอย่าลืมติดตามกันนะคะ
สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบนิวเมติกส์ ไม่ว่าจะเป็น กระบอกสูบนิวเมติกส์ วาล์วนิวเมติกส์ และปั๊มลมนิวเมติกส์ Thai-A เราเป็นโรงงานผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบนิวเมติกส์มายาวนานกว่า 50 ปี เรายินดีรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ตามสั่ง
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency