โซล่ารูฟท็อป พลังงานทางเลือก สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม

โซล่ารูฟท็อป พลังงานทางเลือกสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม

โซล่ารูฟท็อป พลังงานทางเลือกสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม จะปล่อยให้ต้นทุนหมดไปกับค่าไฟจากการไฟฟ้าอยู่ทำไม ในเมื่อเรานำพลังงานแสงอาทิตย์มาผลิตไฟเองได้ ? คำนี้ทำให้หลายผู้ประกอบการหันมาทำความรู้จักกับโซล่ารูฟท็อปว่าคืออะไรช่วยผลิตไฟฟ้าได้อย่างไรกันมากขึ้น ทั้งนี้ระบบโซล่ารูฟท็อปจึงเป็นตัวช่วยที่น่าสนใจสำหรับผู้ประการ หรือโรงงานอุตสาหกรรมที่มีความจำเป็นในการใช้ไฟฟ้าผลิตสินค้านั่นเอง

ข้อดีของการติดตั้งระบบโซล่ารูฟท็อปในโรงงานอุตสาหกรรม

  • ช่วยกิจการประหยัดค่าพลังงานไฟฟ้า ทำให้จำนวนหน่วยการใช้ไฟฟ้าของคุณลดลง
  • ลดต้นทุน และเพิ่มกำไรจากการขายไฟฟ้าได้
  • พลังงานแสงอาทิตย์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมติดตั้งโซล่ารูฟท็อปแบบไหนดี ?

โซล่ารูฟท็อป พลังงานทางเลือกสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม

1. อุตสาหกรรมขนาดเล็ก Small Size (3 kwp )

  • Package S (3 kwp )
  • ใช้แผง jinko 400 W จำนวน 8 แผ่น มาตรฐาน IEC, Tier 1
  • Inverter Huawei SUN-2000-3KTL จำนวน 1 เครื่อง (Inverter ผ่านการรับรองจากการไฟฟ้า)
  • ดำเนินการเรื่องเอกสารทางราชการ
  • ระยะคืนทุน 4-5 ปี
  • ประหยัดการใช้ไฟต่อเดือน (บาท) 1,600 บาท
  • พื้นที่ติดตั้ง 16 ตารางเมตร
  • สายไฟมาตรฐานสำหรับงานติดตั้ง Solar Cell
  • อุปกรณ์ติดตั้งครบชุด
  • มีบริการหลังการขาย

2. อุตสาหกรรมขนาดกลาง Medium Size (5 kwp )

โซล่ารูฟท็อป พลังงานทางเลือกสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม
  • ใช้แผง jinko 400 W จำนวน 13 แผ่น IEC, Tier 1
  • Inverter Huawei SUN-2000-5KTL จำนวน 1 เครื่อง (Inverter ผ่านการรับรองจากการไฟฟ้า)
  • ดำเนินการเรื่องเอกสารทางราชการ
  • ระยะคืนทุน 3-4 ปี
  • ประหยัดการใช้ไฟต่อเดือน (บาท) 2,600-3,000 บาท
  • พื้นที่ติดตั้ง 26 ตารางเมตร
  • สายไฟมาตรฐานสำหรับงานติดตั้ง Solar Cell
  • อุปกรณ์ติดตั้งครบชุด
  • มีบริการหลังการขาย

3. อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ Large Size  (10 kwp)

โซล่ารูฟท็อป พลังงานทางเลือกสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม
  • ใช้แผง jinko 400 W จำนวน 25 แผ่น IEC,Tier 1
  • Inverter Huawei SUN-2000-10KTL จำนวน 1 เครื่อง (Inverter ผ่านการรับรองจากการไฟฟ้า)
  • ดำเนินการเรื่องเอกสารทางราชการ
  • ระยะคืนทุน 3-4 ปี
  • ประหยัดการใช้ไฟต่อเดือน (บาท) 4,500-6,000 บาท
  • พื้นที่ติดตั้ง 50 ตารางเมตร
  • สายไฟมาตรฐานสำหรับงานติดตั้ง Solar Cell
  • อุปกรณ์ติดตั้งครบชุด
  • มีบริการหลังการขาย

มาประหยัดไฟฟ้าด้วยการติดตั้งระบบโซล่ารูฟท็อปกันนะคะ ช่วยให้คุณได้ประหยัดงบประมาณ รับประกันคืนทุน 5 ปี หลังจากนี้ก็ใช้ไฟได้เต็มที่กันยาว ๆ ไปเลยค่ะ บอกได้เลยว่าคุ้มมาก

หากคุณสนใจระบบโซล่าเซลล์ Thai-A เราเป็นผู้นำด้านบริการ และจัดจำหน่าย อุปกรณ์ระบบโซล่าเซลล์ครบวงจร เช่น แผงโซล่าเซลล์ แผงโซล่าเซลล์ 320 วัตต์ ปั๊มโซล่าเซลล์ ปั๊มหอยโข่งโซล่าเซลล์ ปั๊มน้ำซับเมอร์ส พร้อมทั้งติดตั้งระบบโซล่าฟาร์ม โซล่ารูฟท็อปราคาจับต้องได้ เรามีประสบการณ์ยาวนาน เจ้าแรกที่ติดตั้งในไทย มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย มาตรฐาน มอก.พร้อมรับประกันงานติดตั้ง 1 ปี

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

โทร : 02-026-3854

E-mail : webmaster@teacgroup.com

Facebook : thaiagency

Line ID : @thaiagency

Read More
ระบบไฮดรอลิคในรถฟอร์คลิฟท์

ระบบไฮดรอลิคในรถฟอร์คลิฟท์

ระบบไฮดรอลิคในรถฟอร์คลิฟท์ ระบบไฮดรอลิคมีความสำคัญต่อการใช้งานรถยก ทำงานโดยใช้ของเหลวอัดแรงดันเป็นกำลังเครื่องยนต์ กำลังไฮดรอลิคสามารถเปลี่ยนของเหลวจำนวนเล็กน้อยให้เป็นกำลังปริมาณมากได้

รถยกส่วนใหญ่ใช้ปั๊มเกียร์และให้การไหลของของเหลวอย่างต่อเนื่องเพื่อจ่ายวาล์วควบคุมไฮดรอลิค วาล์วควบคุมไฮดรอลิคเริ่มต้นและหยุดทิศทางของของไหล และควบคุมตำแหน่งที่ของไหลไหลผ่านแกนม้วนท่อไปยังตัวกระตุ้นที่ต้องการ วาล์วระบายทำหน้าที่เป็นวาล์วนิรภัยเพื่อป้องกันระบบไฮดรอลิคจากแรงดันไฮดรอลิคมากเกินไป สุดท้ายสายส่งกลับซึ่งส่งคืนของเหลวกลับไปที่ถังและทำให้รอบระบบไฮดรอลิคสมบูรณ์

ส่วนประกอบของฟอล์คลิฟท์ มีดังนี้

 1. เสารถฟอล์คลิฟท์ (Mast) คือ อุปกรณ์รางเลื่อนสำหรับให้ส่วนของงาขึ้น-ลง โดยทั่วไปเสารถฟอล์คลิฟท์จะมี 2 ท่อน ซึ่งยกได้ประมาณ 3 เมตร แต่ถ้าต้องการยกได้สูง 5-6 เมตร จะต้องเปลี่ยนเสาให้สูงขึ้น หรือใช้เสา 3 ท่อน (Full Free Mast) เสา 3 ท่อน คือ อุปกรณ์พิเศษของเสา เป็นเสาที่สามารถนำไปใช้ในสถานที่ที่มีความจำกัดได้

 2. งารถฟอล์คลิฟท์ (Fork) คือ อุปกรณ์ที่ใช้ยกสิ่งของต่าง ๆ และงายังเป็นอุปกรณ์ที่ “อันตราย” ที่สุด งานของรถฟอล์คลิฟท์มีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับลักษณะของสิ่งของที่ต้องการยก

 3. กระบอกไฮดรอลิค (Hydraulic) โดยมาตรฐานรถฟอล์คลิฟท์จะมีกระบอกไฮดรอลิคอยู่ 3 ชุด ดังนี้

   3.1) กระบอกยก คือ กระบอกไฮดรอลิคที่ทำหน้าที่ยกงาขึ้นลง มี 2 กระบอก

   3.2) กระบอกคว่ำ-หงาย คือ กระบอกไฮดรอลิคที่ทำหน้าที่เอียงเสาไปหน้าและหลัง มี 2 กระบอก

   3.3) กระบอกบังคับเลี้ยว คือ กระบอกไฮดรอลิคที่ทำหน้าที่บังคับการเลี้ยวของรถฟอล์คลิฟท์ ในส่วนนี้จะมีกระบอกเดียว

 4. ล้อหน้า (Front Wheel) คือ ล้อที่มีหน้าที่ 3 ประการ ดังนี้

   4.1) รับน้ำหนักบรรทุก หรือ ล้อโหลด

   4.2) ขับเคลื่อน

   4.3) เบรค

 5. ล้อหลัง (Rear Wheel) คือ ล้อที่ทำหน้าที่บังคับเลี้ยวเพียงอย่างเดียว

สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบไฮดรอลิค ไม่ว่าจะเป็น กระบอกไฮดรอลิค วาล์วไฮดรอลิก และปั๊มไฮดรอลิก Thai-A เราเป็นโรงงานผลิตกระบอกไฮดรอลิค และเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบไฮดรอลิคมายาวนานกว่า 50 ปี เรายินดีรับผลิตกระบอกไฮดรอลิค และรับผลิตกระบอกไฮดรอลิคตามสั่ง

สนใจสอบถามได้ที่

โทร : 02-026-3854

E-mail : webmaster@teacgroup.com

Facebook : thaiagency

Line ID : @thaiagency

Read More
ประเภทและประโยชน์ของเซ็นเซอร์ในระบบไฮดร

ประเภทและประโยชน์ของเซ็นเซอร์ในระบบไฮดรอลิค

ประเภทและประโยชน์ของเซ็นเซอร์ในระบบไฮดรอลิค อุตสาหกรรมไฮดรอลิคเปลี่ยนแปลงไปมาก เมื่อเราเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 การรวมเซ็นเซอร์ประเภทต่าง ๆ เข้ากับระบบไฮดรอลิคช่วยลดความยุ่งยากในการแก้ไขปัญหาและการบำรุงรักษา เมื่อติดตั้งเซ็นเซอร์ที่เหมาะสมกับระบบของคุณ คุณจะสามารถระบุสถานะความสมบูรณ์ของระบบได้อย่างแม่นยำ และดำเนินการบำรุงรักษาที่จำเป็นโดยเร็วที่สุด และที่สำคัญที่สุด เซ็นเซอร์จะให้มุมมองที่ถูกต้องและครบถ้วนว่าระบบไฮดรอลิคของคุณทำงานอย่างไร พูดง่าย ๆ คือเซ็นเซอร์ในระบบไฮดรอลิคสามารถใช้เพื่อควบคุม และตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของระบบไฮดรอลิคของคุณได้

โดยทั่วไป เซ็นเซอร์เป็นเครื่องมือวัดที่ให้ค่าแบบ real time สำหรับตัวแปรในระบบไฮดรอลิค เช่น ความดัน อัตราการไหล ระดับการบรรจุ อุณหภูมิ หรือการปนเปื้อน สำหรับทุกการใช้งาน การระบุค่าที่ถูกต้องของตัวแปรกระบวนการไฮดรอลิคเหล่านี้จะมีประโยชน์ในการระบุว่าระบบของคุณทำงานอย่างไรและจะเกิดปัญหาในขั้นตอนการทำงานไหนบ้าง

ความดันเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับทุกส่วนประกอบในระบบไฮดรอลิค ส่วนประกอบทุกชิ้นจะมีระดับแรงดันสูงสุดที่สามารถทนได้ ถ้าได้รับความดันที่สูงกว่านั้น ส่วนประกอบนั้นจะได้รับความเสียหาย และนี่ก็จะเป็นตอนที่เรานำเอาเซ็นเซอร์เข้ามาใช้นั่นเองค่ะ โดยที่ผู้ปฏิบัติงานสามารถตรวจสอบค่าความดันเหล่านี้และควบคุมได้เมื่อจำเป็น ซึ่งในบทความนี้แอดมินจะมาบอกถึงประเภทและประโยชน์ของเซ็นเซอร์ในระบบไฮดรอลิคกันค่ะ

สารบัญ

  • ประเภทของเซ็นเซอร์ในระบบไฮดรอลิค
    • เซ็นเซอร์ความดัน (Pressure sensors)
    • เลเวลเซ็นเซอร์ (Level sensors)
    • เซ็นเซอร์วัดการไหล (Flow sensors)
    • เซ็นเซอร์อุณหภูมิ (Temperature sensors)
    • เซ็นเซอร์การปนเปื้อน (Contamination sensors)
  • บทสรุป

ประเภทของเซ็นเซอร์ในระบบไฮดรอลิค

ประเภทและประโยชน์ของเซ็นเซอร์ในระบบไฮดรอลิค
  • เซ็นเซอร์ความดัน (Pressure sensors)

การใช้งานเซ็นเซอร์ความดันสามารถพบได้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องมือวัดทางชีวการแพทย์ การบิน อุตสาหกรรมทางทะเล เป็นต้น องค์ประกอบหลักของเซ็นเซอร์ความดันคือตัวตรวจจับ เมื่อแรงดันไปถึงตัวตรวจจับ ตัวตรวจจับจะทำปฏิกิริยากับแรงดันนั้นแล้วส่งสัญญาณเอาต์พุตโดยขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีที่ใช้

  • เลเวลเซ็นเซอร์ (Level sensors)

เลเวลเซ็นเซอร์ในระบบไฮดรอลิคใช้สำหรับตรวจสอบและควบคุมระดับของของไหลภายในพื้นที่บรรจุ เลเวลเซ็นเซอร์สามารถใช้ในงานอุตสาหกรรม และงานในครัวเรือนได้ เช่น เครื่องชงกาแฟ ตัวบ่งชี้ระดับน้ำมันเชื้อเพลิงในรถยนต์ เป็นต้น เซ็นเซอร์เหล่านี้มีประโยชน์มากในการตรวจจับการรั่วไหลของของเหลว เลเวลเซ็นเซอร์ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ เลเวลเซ็นเซอร์อัลตราโซนิก (ultrasonic level sensors) ใช้สำหรับของเหลวที่มีความเหนียวและวัสดุที่มีความหนาแน่นสูง เลเวลเซ็นเซอร์ความจุ (capacitance level sensors) ใช้สำหรับของเหลวที่มีความข้นและของเหลวที่เหลว เลเวลเซ็นเซอร์ออปติคัล (optical level sensors) ใช้สำหรับตรวจจับการรั่วไหลและวัดระดับถัง และเซ็นเซอร์ออปติคัลไมโครเวฟ (microwave optical sensors) ใช้กับสภาพแวดล้อมที่เป็นไอ มีความชื้น และเต็มไปด้วยฝุ่นควัน

  • เซ็นเซอร์วัดการไหล (Flow sensors)

เซ็นเซอร์วัดการไหลเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจสอบและควบคุมอัตราการไหลของของเหลวผ่านระบบ   ไฮดรอลิค เซ็นเซอร์วัดการไหลยังเรียกว่าสวิตช์การไหลหรือเซ็นเซอร์กระแสหรือเครื่องวัดการไหล การประยุกต์ใช้เซ็นเซอร์วัดการไหลสามารถพบได้ในวิศวกรรม พื้นที่ป้องกันการระเบิด การสร้างเครื่องจักรและโรงงาน และการใช้งานที่ไวต่อสุขอนามัย เช่น เครื่องวัดอัตราการไหลของแม่เหล็กไฟฟ้า เครื่องวัดการไหลของกังหัน เครื่องวัดอัตราการไหลของโบลิทาร์ เครื่องวัดอัตราการไหลของมวลความร้อน เป็นต้น

  • เซ็นเซอร์อุณหภูมิ (Temperature sensors)

การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิที่สูงกว่าเกณฑ์ที่โรงงานผลิตกระบอกไฮดรอลิคกำหนด จะทำให้ระบบไฮดรอลิคเสียหาย เซ็นเซอร์อุณหภูมิใช้ในวงจรไฮดรอลิคเพื่อตรวจจับอุณหภูมิในระบบไฮดรอลิค การใช้งานทั่วไปของเซ็นเซอร์เหล่านี้ ได้แก่ หน่วยแปรรูปอาหาร อุปกรณ์ทางการแพทย์ การจัดการสารเคมี และระบบควบคุมยานยนต์  เทอร์มิสเตอร์ เซ็นเซอร์อินฟราเรด เป็นต้น พูดง่าย ๆ คือมันเป็นเซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิที่หาได้ทั่วไปนั่นเองค่ะ

  • เซ็นเซอร์การปนเปื้อน (Contamination sensors)

เซ็นเซอร์การปนเปื้อนมีบทบาทสำคัญในการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน เซ็นเซอร์เหล่านี้สามารถตรวจสอบการปนเปื้อนหรืออนุภาคที่มีอยู่ในตัวกลางของไหลได้อย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำ จากนั้นจึงแสดงผลในจอภาพแบบดิจิทัลหรือแบบ analog การประยุกต์ใช้เซ็นเซอร์การปนเปื้อนสามารถพบได้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น การก่อสร้าง เกษตรกรรม เหมืองแร่ ทางทะเล และพลังงานลม เป็นต้น

บทสรุป

ในยุคอุตสาหกรรม 4.0 ระบบไฮดรอลิคมีการเปลี่ยนแปลงพัฒนาให้มีการใช้งานที่ง่ายขึ้นและป้องกันการเสียหายจากความดันที่อาจสูงเกินค่าที่โรงงานผลิตกระบอกไฮดรอลิคกำหนดได้ โดยการนำเอาเซ็นเซอร์ไฮดรอลิคเข้ามาประยุกต์ใช้กับงานในระบบ เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถตรวจสอบค่าความดันเหล่านี้และควบคุมไม่ให้เกิดความเสียหายได้ค่ะ

บริษัท Thai-A เป็นทั้งผู้แทนจำหน่ายอุปกรณ์ไฮดรอลิค และผู้รับผลิตกระบอกไฮดรอลิค สามารถสั่งทำกระบอกไฮดรอลิคตามวัตถุประสงค์และตามความเหมาะสมกับงาน โดยผู้เชี่ยวชาญที่เชื่อถือได้

สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบไฮดรอลิค ไม่ว่าจะเป็น กระบอกไฮดรอลิค วาล์วไฮดรอลิค และปั๊มไฮดรอลิค Thai-A เราเป็นโรงงานผลิตกระบอกไฮดรอลิค และเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบไฮดรอลิคมายาวนานกว่า 50 ปี เรายินดีรับผลิตกระบอกไฮดรอลิค และรับผลิตกระบอกไฮดรอลิคตามสั่ง สามารถสั่งทำกระบอกไฮดรอลิคคุณภาพดีกับทางเราได้

สนใจสอบถามได้ที่

โทร : 02-026-3854

E-mail : webmaster@teacgroup.com

Facebook : thaiagency

Line ID : @thaiagency

Read More
หลักการทำงานของกระบอกลมนิวเมติกส์

หลักการทำงานของกระบอกลมนิวเมติกส์

หลักการทำงานของกระบอกลมนิวเมติกส์ อุตสาหกรรมส่วนใหญ่จำเป็นต้องมีการสร้างการเคลื่อนที่เชิงเส้นเพื่อให้อุปกรณ์และเครื่องจักรสามารถดำเนินการได้ โดยกระบอกนิวเมติกส์เป็นอุปกรณ์ทางกลที่แปลงพลังงานจากอากาศอัดเป็นการเคลื่อนที่เชิงเส้น กระบอกนิวเมติกส์จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำงานของวงการอุตสาหกรรม เนื่องจากกระบอกนิวเมติกส์ถือเป็นถังอากาศที่สามารถตอบโจทย์ในเรื่องค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงมักนัก แต่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งในบทความนี้แอดมินจะมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับหลักการทำงานของกระบอกนิวเมติกส์ขั้นพื้นฐานกันค่ะ

สารบัญ

  • ดีไซน์ของกระบอกนิวเมติกส์
  • หลักการทำงานของกระบอกนิวเมติกส์
  • การตรวจจับตำแหน่งกระบอกนิวเมติกส์
  • การกันกระแทก
  • บทสรุป

ดีไซน์ของกระบอกลมนิวเมติกส์

ส่วนประกอบหลัก ๆ ของกระบอกนิวเมติกส์ คือ (A) พอร์ตปลายท่อ (B) แกนยึด (C) พอร์ตปลายก้าน (D) ลูกสูบ (E) กระบอกสูบ (F) และแกนลูกสูบ ตามรูปภาพข้างล่าง

หลักการทำงานของกระบอกลมนิวเมติกส์
ขอบคุณรูปภาพจาก Tameson

กระบอกลมทรงเหลี่ยมถูกปิดผนึกที่ปลายทั้งสองข้างด้วยที่ครอบหัวและฝาท้าย ภายในกระบอกนิวเมติกส์นี้ ลูกสูบจะขับเคลื่อนแกนในลักษณะเชิงเส้นตรง เมื่ออากาศอัดเข้ามาทางพอร์ตปลายท่อแล้ว (A) ลูกสูบจะเคลื่อนออกจากฝาปิดและดันก้านสูบออก การเคลื่อนไหวนี้เรียกว่าการเคลื่อนไหวบวก และห้องที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวนี้ เราจะเรียกว่าห้องบวก ส่วนห้องลบจะอยู่ฝั่งตรงข้ามเสมอ และเมื่ออากาศอัดเข้าสู่พอร์ตปลายก้านลูกสูบ (D) ก้านลูกสูบจะถูกดันกลับไปที่ตำแหน่งลบ ตามรูปภาพข้างล่าง

หลักการทำงานของกระบอกลมนิวเมติกส์
ขอบคุณรูปภาพจาก Tameson

หลักการทำงานของกระบอกนิวเมติกส์

กระบอกนิวเมติกส์สามารถแบ่งออกได้เป็น กระบอกลมแบบ Single Acting และ  Double Acting

  • กระบอกลมนิวเมติกส์แบบ Single Acting

ในกระบอกลมแบบ Single Acting อากาศจะถูกจ่ายไปยังด้านใดด้านหนึ่งของลูกสูบ และมีหน้าที่ในการเคลื่อนที่ลูกสูบไปในทิศทางเดียวเท่านั้น การเคลื่อนที่ของลูกสูบในทิศทางตรงกันข้ามนั้นจะถูกกระทำโดยสปริงเชิงกล กระบอกลมแบบ Single Acting สามารถออกแบบให้มีตำแหน่งฐานลบ (การคืนสปริง) หรือตำแหน่งฐานบวก (การยืดสปริง) ได้

หลักการทำงานของกระบอกลมนิวเมติกส์
ขอบคุณรูปภาพจาก Pneumax

แต่ข้อเสียของกระบอกลมแบบ Single Acting คือแรงส่งออกไม่สามารถส่งแรงได้เต็มที่ อันเนื่องมาจากแรงสปริงตรงข้าม นอกจากนี้ระยะชักของกระบอกลมแบบ Single Acting สามารถถูกจำกัดได้ เนื่องจากพื้นที่ที่สปริงอัดใช้ ความยาวของสปริงที่พร้อมใช้งาน และความยาวโครงสร้างของกระบอกลมที่ออกครั้งเดียวจะยาวกว่าระยะชักจริง

  • กระบอกลมนิวเมติกส์แบบ Double Acting

ในกระบอกนิวเมติกส์แบบ double-acting อากาศจะถูกส่งไปยังห้องทั้งสองด้านของลูกสูบ ความกดอากาศที่สูงขึ้นในด้านหนึ่งสามารถขับเคลื่อนลูกสูบไปอีกด้านหนึ่งได้ กระบอกสูบแบบ Double-acting เป็นประเภทที่นิยมใช้กันมากที่สุด เพราะผู้ใช้สามารถควบคุมกระบอกลมได้อย่างเต็มที่

ข้อดีของกระบอกลมแบบ double-acting คือระยะชักที่ยาวกว่า และแรงขับคงที่ตลอดระยะชักเต็ม กระบอกลมเหล่านี้ให้การควบคุมที่ดีขึ้นและทำงานด้วยอัตราการหมุนเวียนที่สูงขึ้น แต่ข้อเสียของกระบอกสูบแบบ double-acting คือความต้องการอากาศอัดที่มากกว่าสำหรับการเคลื่อนที่ทั้งสองทิศทาง

การตรวจจับตำแหน่งกระบอกนิวเมติกส์

ในการตรวจจับตำแหน่งของลูกสูบ ลูกสูบสามารถติดตั้งแม่เหล็กได้ เซ็นเซอร์ที่ติดตั้งบนตัว กระบอกลมสามารถรับข้อมูลจากสนามแม่เหล็กที่สร้างขึ้นและรับรู้ตำแหน่งของลูกสูบในกระบอกลมได้ Reed สวิตช์และ hall effect เซ็นเซอร์เป็นประเภทเซ็นเซอร์ที่ใช้บ่อยที่สุด

การกันกระแทก (Cushioning)

เมื่อมีอากาศอัดเข้าสู่กระบอกลม การเคลื่อนที่ของลูกสูบในกระบอกนิวเมติกส์จะมีความเร็วมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดการกระแทกอย่างรุนแรงได้เมื่อลูกสูบกระทบที่หัวหรือฝาท้ายกระบอก การกระแทกอย่างรุนแรงจะทำให้เกิดความเสียหายต่อส่วนประกอบต่าง ๆ ในกระบอกลม ทำให้เกิดเสียงดัง และเกิดการสั่นสะเทือนไปยังโครงสร้างของเครื่องจักรได้ เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น โรงงานผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์สามารถชะลอความเร็วของลูกสูบที่บริเวณฝาครอบด้วยการกันกระแทก การกันกระแทกยังสามารถป้องกันไม่ให้ลูกสูบเด้งออกจากตำแหน่งสุดท้าย โรงงานผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ส่วนใหญ่จะติดตั้งระบบลดแรงกระแทกเมื่อสิ้นสุดระยะชักด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง เช่น ติดตั้งโช๊คอัพแบบยืดหยุ่น (Flexible shock absorbers) หรือเบาะลมแบบปรับได้ (Adjustable pneumatic cushioning)

บทสรุป

กระบอกลมนิวเมติกส์จะแปลงพลังงานกลให้กลายเป็นการเคลื่อนที่เชิงเส้น โดยกระบอกลมจะถูกปิดผนึกที่ปลายทั้งสองข้างด้วยที่ครอบหัวและฝาท้าย ภายในกระบอกลมนิวเมติกส์นี้ ลูกสูบจะขับเคลื่อนแกนในลักษณะเชิงเส้นตรง เมื่ออากาศอัดเข้ามาทางพอร์ตปลายท่อแล้ว ลูกสูบจะเคลื่อนออกจากฝาปิดและดันก้านสูบออก

บริษัท Thai-A เป็นทั้งผู้แทนจำหน่ายอุปกรณ์นิวเมติกส์ และผู้รับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ สามารถสั่งทำกระบอกลมนิวเมติกส์ตามวัตถุประสงค์และตามความเหมาะสมกับงาน โดยผู้เชี่ยวชาญที่เชื่อถือได้

สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบนิวเมติกส์ ไม่ว่าจะเป็น กระบอกลมนิวเมติกส์ วาล์วนิวเมติกส์ และปั๊มลมนิวเมติกส์ Thai-A เราเป็นโรงงานผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบนิวเมติกส์มายาวนานกว่า 50 ปี เรายินดีรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ตามสั่ง สามารถสั่งทำกระบอกลมนิวเมติกส์ที่มีคุณภาพกับทางเราได้

สนใจสอบถามได้ที่

โทร : 02-026-3854

Email : webmaster@taecgroup.com

Facebook : thaiagency

Line ID : @thaiagency

บทความที่น่าสนใจ

Read More
แรงดันสูงในอากาศ ส่งผลดี - เสีย ต่อนิวเมติกส์อย่างไรบ้าง

แรงดันสูงในอากาศส่งผลดี – เสียต่อนิวเมติกส์อย่างไรบ้าง ?

แรงดันสูงในอากาศส่งผลดี – เสียต่อนิวเมติกส์อย่างไรบ้าง ? ระบบนิวเมติกส์ Pneumatic System มีความจําเป็นมากที่จะต้องใช้ลมอัด เพื่อไปควบคุมการทํางานในระบบ และอุปกรณ์ที่ผลิตลมอัดก็คือ เครื่องอัดลม หรือ Air Compressor ซึ่งมีหน้าที่หลักคือ ทําการอัดลมหรืออากาศเข้าไปเก็บไว้ในถังเก็บลม

สำหรับใครอยากรู้ว่าลมอัดแรงดันอากาศสูงหรือมีข้อดีข้อเสียอย่างไรต่ออุปกรณ์นิวเมติกส์ หรือระบบนิวเมติกส์ วันนี้แอดมินมีคำตอบมาบอกกัน จะเป็นอย่างไรตามแอดมินไปดูกันเลยค่ะ

ข้อดีของแรงดันอากาศสูง

  1. แรงดันอากาศที่มีแรงดันสูงหรือลมอัดนั้นจะมีความทนต่อการระเบิดได้สูง ซึ่งแรงดันอากาศสูงจะไม่มีอันตรายจากการระเบิด หรือติดไฟ ดังนั้นอุปกรณ์ที่ใช้ลมอัดจะมีราคาถูก สามารถซ่อมแซม หรือบำรุงรักษาได้ง่าย
  2. อุปกรณ์ที่ใช้ลูกสูบในการทำงานอย่างเช่น กระบอกนิวเมติกส์ จะนิยมใช้แรงดันอากาศสูงในการกระตุ้นการทำงาน โดยลูกสูบของกระบอกนิวเมติกส์  จะมีความเร็วในการทำงานตั้งแต่ 1 ถึง 2 m/s ถ้าเป็นกระบอกนิวเมติกส์ที่มีลูกสูบแบบพิเศษจะสามารถทำงานได้เร็วถึง 10 m/s
  3. แรงดันสูง หรือลมอัดที่ใช้แล้วไม่จำเป็นต้องนำกลับมาใช้งานใหม่ เราสามารถปล่อยลมอัด หรือแรงดันสูงนั้นทิ้งออกสู่บรรยากาศได้เลย การส่งถ่ายสามารถทำได้ง่าย และยังสามารถเดินท่อลมอัด หรือท่อจ่ายแรงดันอากาศสูงได้ในระยะทางที่ไกลได้อีกด้วย
  4. ลมอัด หรือแรงดันอากาศสูงสามารถเก็บไว้ในถังลมเฉพาะ เพื่อการนำไปใช้งานที่ต่อเนื่องได้
  5. มีความปลอดภัยสูงเพราะอุปกรณ์ที่ใช้ลมอัด หรือแรงดันอากาศสูงนี้จะไม่เกิด หรือเกิดความเสียหายจากงานที่ผิดพลาด หรืองานที่เกินกำลัง
  6. ลมอัดแรงดันสูงนี้สามารถควบคุมได้ง่าย โดยเราสามารถใช้อุปกรณ์นิวเมติกส์อื่น ๆ มาใช้ในการควบคุมได้ อย่างเช่น เกจควบคุมแรงดัน หรือวาล์วควบคุมแรงดัน เป็นต้น
  7. ลมอัด หรือแรงดันอากาศสูงมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สะอาด ซึ่งอุปกรณ์ที่นำลมอัด หรือแรงดันสูงนี้ไปใช้งานก็จะมีความสะอาดด้วยเช่นกัน
  8. มีความยืดหยุ่นมากกว่ากระบอกไฮดรอลิค ทั้งในด้านการทำงาน ราคา การออกแบบ การติดตั้ง และการบำรุงรักษาในระยะยาวที่ดีกว่าอีกด้วย

ข้อเสียของแรงดันอากาศสูง

  1. จริง ๆ แล้วแรงดันอากาศสูง หรือลมอัด สามารถหดตัวหรือขยายตัวได้ ซึ่งอาจจะทำให้การเคลื่อนที่ของอุปกรณ์ที่ใช้แรงดันอากาศ หรือลมอัด ไม่แม่นยำได้
  2. แรงดันอากาศสูง หรือลมอัดสามารถทำให้เกิดหยดน้ำในถังเก็บลม หรือท่อลมเมื่อเย็นตัวได้ ดังนั้นผู้ที่นำอุปกรณ์ที่ใช้แรงดันอากาศสูง หรือลมอัดไปใช้งานควรตรวจสอบหยดน้ำ ความชื้น ของอุปกรณ์ด้วย เพราะความชื้นหรือหยดน้ำเหล่านี้อาจจะทำให้อุปกรณ์นิวเมติกส์เสีย ชำรุด หรือไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพได้
  3. อุปกรณ์ที่ใช้แรงดันอากาศสูง หรือลมอัดจะมีเสียงค่อนข้างดังเมื่ออุปกรณ์ทำงาน อย่างเช่น เมื่อมีการระบายลมหรือความชื้นออกจากอุปกรณ์อย่างปั๊มลม แอร์คอมเพรสเซอร์ จะเห็นได้ว่าบางครั้งเราจะได้ยินเสียงที่ค่อนข้างดังมาก ดังนั้นถ้ามีความจำเป็นที่จะต้องใช้อุปกรณ์นิวเมติกส์ที่ใช้แรงดันอากาศสูง หรือลมอัดจริง ๆ ควรหาอุปกรณ์ที่ใช้ในการเก็บเสียง หรือไซเรนเซอร์มาช่วยในการเก็บเสียงอีกครั้งหนึ่ง
  4. เมื่ออุณหภูมิมีการเปลี่ยนแปลงจะทำให้ความดันของแรงดันอากาศสูง หรือ ลมอัดอาจเปลี่ยนแปลงได้
  5. แรงดันอากาศสูง หรือลมอัดจะต้องมีอุปกรณ์ที่ใช้งานได้อย่างเพียงพออย่างเช่น ถ้ามีใช้งาน กระบอกนิวเมติกส์ ที่มีขนาดใหญ่ หรือปืนลมที่มีการใช้งานอย่างต่อเนื่อง ควรมีอุปกรณ์ที่สามารถสร้างลมอัด หรือแรงดันสูงได้อย่างต่อเนื่อง ไม่เช่นนั้นแล้วจะทำให้อุปกรณ์ หรืองานล่าช้า หรือขาดช่วงการทำงานได้

สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบนิวเมติกส์ ไม่ว่าจะเป็น กระบอกนิวเมติกส์ วาล์วนิวเมติกส์ และปั๊มลมนิวเมติกส์ Thai-A เราเป็นโรงงานผลิตกระบอกนิวเมติกส์ และเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบนิวเมติกส์มายาวนานกว่า 50 ปี เรายินดีรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ ประกอบกระบอกนิวเมติกส์และรับผลิตกระบอกนิวเมติกส์ตามสั่ง

สนใจสอบถามได้ที่

โทร : 02-026-3854

E-mail : webmaster@teacgroup.com

Facebook : thaiagency

Line ID : @thaiagency

Read More
สิ่งเจือปนอันตรายกับระบบไฮดรอลิคมากแค่ไหน

สิ่งเจือปนอันตรายกับระบบไฮดรอลิคมากแค่ไหน ?

สิ่งเจือปนอันตรายกับระบบไฮดรอลิคมากแค่ไหน ? ความเสียหายของระบบไฮดรอลิคมักเกิดขึ้นจากการมีสิ่งเจือปนในน้ำมันไฮดรอลิค แน่นอนเมื่อระบบไฮดรอลิคเกิดความเสียหาย ผลกระทบอื่นๆ จากระบบไฮดรอลิคย่อมเกิดปัญหาตามมาด้วย เช่น

  • เสียเวลาในการผลิต (Down Time) ของเครื่องจักรที่เกิดความเสียหาย ตลอดจนสายการผลิตที่เกี่ยวข้อง
  • เสียค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนอะไหล่หรือชิ้นส่วนของอุปกรณ์ไฮดรอลิคที่ชำรุดเสียหาย
  • เสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินการและการซ่อมบำรุง
  • จำนวนของเสียที่เพิ่มขึ้น (Scrap Rate) เนื่องจากความผิดปกติหรือความเสียหายของเครื่องจักร

ส่วนผลเสียที่เกิดขึ้นกับเครื่องจักรและส่วนประกอบของเครื่องจักรเนื่องจากการที่มีสิ่งสกปรกเจือปนที่เกิดขึ้นได้ เช่น

  • โซลินอยด์วาล์วไหม้ ชำรุดเสียหายหรือทำงานผิดปกติ
  • การเคลื่อนที่ของวาล์วไม่สมูททำให้เกิดเสียงดังผิดปกติขณะวาล์วเคลื่อนที่
  • ปั๊มไฮดรอลิคชำรุดเสียหาย เกิดเสียงดังผิดปกติ ประสิทธิภาพในการทำงานของปั๊มไฮดรอลิคลดลง
  • กระบอกไฮดรอลิคเป็นรอยหรือรั่วซึม

การปนเปื้อนอาจเกิดจากน้ำมันไฮดรอลิค, สิ่งแวดล้อม, การสึกหรอของระบบ, กระบวนการผลิตและการบำรุงรักษา การปนเปื้อนสามารถเกิดขึ้นได้เมื่อมีการเคลื่อนที่ของชิ้นส่วนในระบบ วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือตรวจสอบความสะอาดของน้ำมันและตัวกรองน้ำมันอยู่เสมอ หากคุณสังเกตเห็นแกนและพื้นผิวกระบอกไฮดรอลิคมีรอยขีดข่วน, การสึกหรอของซีลและมีน้ำมันรั่ว นั่นอาจเป็นผลมาจากการปนเปื้อน ควรตรวจสอบและแก้ไขโดยเร็วที่สุด

สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบไฮดรอลิค ต้องการสั่งทำกระบอกไฮดรอลิค หรือสนใจวาล์วไฮดรอลิค และปั๊มไฮดรอลิค เป็นต้น Thai-A เป็นโรงงานที่รับผลิตกระบอกไฮดรอลิคได้ตามความต้องการ รับผลิตและประกอบกระบอกไฮดรอลิคได้มาตรฐานสากล เราพร้อมผลิตสินค้าเพื่อธุรกิจของท่านด้วยผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับไฮดรอลิคมายาวนานกว่า 50 ปี และเรามีทีมงานที่มากประสบการณ์คอยให้คำปรึกษาท่านอยู่

สนใจสอบถามได้ที่

โทร : 02-026-3854

E-mail : webmaster@teacgroup.com

Facebook : thaiagency

Line ID : @thaiagency

Read More
ท่อและสายไฮดรอลิคเสียหายทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ ขายท่อและสายไฮดรอลิค

ท่อและสายไฮดรอลิคเสียหายทำให้เกิดการบาดเจ็บได้

ท่อและสายไฮดรอลิคเสียหายทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ ไม่มีอะไรที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบไฮดรอลิคและต่อผู้ปฏิบัติงานในระบบได้มากกว่าท่อไฮดรอลิคที่เสียหายหรือแตก สายและท่อไฮดรอลิคปรียบเสมือนหลอดเลือดแดงของระบบไฮดรอลิค ที่ลำเลียงของไหลจากปั๊มไปยังกระบอกสูบไฮดรอลิค เช่นเดียวกับร่างกายของคนเรา เมื่อหลอดเลือดแดงมีปัญหา เลือดจะไม่สามารถไหลไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้ ทำให้หลอดเลือดทำงานได้ไม่ดี หรือแย่ที่สุดคือไม่ทำงานเลย ซึ่งท่อและสายไฮดรอลิคก็เหมือนกันค่ะ หากน้ำมันไฮดรอลิคไม่สามารถไหลไปยังกระบอกสูบได้ กระบอกสูบไฮดรอลิคจะไม่สามารถทำงานได้ แต่ที่แย่กว่านั้นคือปั๊มไฮดรอลิคสามารถสร้างแรงดันที่สูงสุดถึง 10,000 psi หรือสูงกว่านั้น ต่างจากค่าความดันของหัวใจที่สูบฉีดเลือดไปทั่วร่างกาย ซึ่งแรงดันที่มากมายขนาดนี้จะทำให้ท่อที่แตกร้าวกลายเป็นอาวุธที่ร้ายแรง เพราะเมื่อท่อไฮดรอลิคแตก มันสามารถยิงของเหลวไฮดรอลิคที่สามารถเจาะผิวหนังของคุณทำให้เกิดแผลไหม้และติดเชื้อได้ และในบางกรณีก็ถึงขั้นสามารถทำให้แขนขาขาดและถึงแก่ชีวิตได้ ฉะนั้นเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาเล็ก ๆ ซึ่งในบทความนี้แอดมินจะมาบอกแนวทางการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อตรวจสอบและทดสอบท่ออ่อนก่อนนำไปใช้งานค่ะ

ท่อและสายไฮดรอลิคเสียหายทำให้เกิดการบาดเจ็บได้

แนวทางปฏิบัติต่อสายท่อไฮดรอลิค

  1. ตรวจสอบสายยางทั้งหมดก่อนเริ่มงาน

สายท่อที่ชำรุดจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ ฉะนั้นก่อนลงมือปฏิบัติงานให้ตรวจหาสิ่งต่อไปนี้ทุกครั้ง

  • – ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีข้องอในท่อ โดยให้ใส่ใจบริเวณปลายท่อเป็นพิเศษ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าปลอกป้องกันยังคงอยู่ เพราะปลอกหุ้มจะป้องกันการโค้งงอที่คมใกล้กับจุดต่อไฮดรอลิค
  • ระวังค่าเผื่อการโค้งงอขั้นต่ำสำหรับท่อของคุณ – เมื่อท่อไฮดรอลิคได้รับแรงดัน มันจะแข็งตัวและทำให้ระบบตึงมากขึ้น โดยเฉพาะที่ส่วนปลาย ฉะนั้นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีพื้นที่เพียงพอสำหรับการเคลื่อนไหวนี้
  • ตรวจสอบข้อบกพร่องของท่ออย่างใกล้ชิด – ตรวจสอบรูเข็ม รอยถลอก รอยแตก หรือรอยตัด หากมีสิ่งเหล่านี้ให้เปลี่ยนท่อทันที
  • ปกป้องท่อไฮดรอลิคเสมอ

อย่าให้ความร้อน ประกายไฟ สารเคมีที่อาจสร้างความเสียหายมาโดนสายท่อ ห้ามลากท่อบนพื้น ห้ามเหยียบสายท่อหรืออนุญาตให้ใครก็ตามใช้สายท่อเป็นที่จับเมื่อต้องการเคลื่อนย้ายกระบอกสูบไฮดรอลิค

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าท่อได้รับการจัดอันดับอย่างถูกต้อง

ท่อไฮดรอลิคต้องได้รับการจัดอันดับสำหรับแรงดันสูงสุดในระบบ ในกรณีส่วนใหญ่ ท่อต้องได้รับการจัดอันดับให้เทียบเท่าหรือสูงกว่าพิกัดแรงดันสำหรับปั๊ม ท่อไฮดรอลิคของคุณจะมีสองระดับ หนึ่งคือแรงดันใช้งาน นั่นคือแรงดันปกติ (ควรเท่ากับปั๊ม) และอีกอันคือแรงดัน “ระเบิด” นั่นคือแรงดันที่ท่ออาจแตก ค่านี้ควรเป็นอย่างน้อยสองเท่าของแรงดันใช้งาน ตัวอย่างเช่น ท่อขนาด 10,000 psi ควรมีแรงดันระเบิดที่ 20,000 psi หรือมากกว่า บางครั้ง ท่ออาจมีแรงดันระเบิดถึง 4 เท่าของแรงดันใช้งาน ตัวอย่างเช่น ท่อ 3,000 psi ที่มีระดับการแตก 4X จะมีระดับการแตกที่ 12,000 psi แม้ว่าแรงดันระเบิดจะอยู่ที่ 12,000 psi แต่ไม่ควรใช้ในระบบ 10,000 psi เพราะมันจะไม่ปลอดภัยค่ะ

ท่อและสายไฮดรอลิคเสียหายทำให้เกิดการบาดเจ็บได้

บทสรุป

สายท่อไฮดรอลิคเปรียบเสมือนหลอดเลือดแดงในร่างกายคนเรา โดยสายท่อนี้จะลำเลียงของไหลจากปั๊มไปยังกระบอกไฮดรอลิค เพื่อให้กระบอกสูบสามารถทำงานได้ เช่นเดียวกับหลอดเลือดแดงที่ลำเลียงน้ำและเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย แต่ปั๊มไฮดรอลิคมีความดันที่สูงกว่าหัวใจของเรามาก ทำให้หากสายท่อมีการแตกร้าวหรือรั่ว อาจเกิดแรงดันระเบิดและทำให้ผู้ปฏิบัติใกล้เคียงได้รับอันตรายได้ ฉะนั้นทุกครั้งก่อนใช้งานระบบไฮดรอลิค ต้องมีการตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าสายยางท่อนั้นไม่มีจุดใดที่เสียหายเลย อย่างไรก็ตามผู้อ่านควรซื้อหรือสั่งทำกระบอกไฮดรอลิคจากผู้เชี่ยวชาญ และให้เขาตรวจสอบสายท่อเมื่อทำการประกอบกระบอกไฮดรอลิคเข้ากับส่วนต่าง ๆ ในระบบค่ะ

บริษัท Thai-A เป็นทั้งผู้แทนจำหน่ายอุปกรณ์ไฮดรอลิค และผู้รับผลิตกระบอกไฮดรอลิค สามารถสั่งทำกระบอกไฮดรอลิคตามวัตถุประสงค์และตามความเหมาะสมกับงาน โดยผู้เชี่ยวชาญที่เชื่อถือได้

สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบไฮดรอลิค ไม่ว่าจะเป็น กระบอกสูบไฮดรอลิค วาล์วไฮดรอลิค และปั๊มไฮดรอลิค Thai-A เราเป็นโรงงานผลิตกระบอกไฮดรอลิค และเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบไฮดรอลิคมายาวนานกว่า 50 ปี เรายินดีรับผลิตกระบอกไฮดรอลิค และรับผลิตกระบอกไฮดรอลิคตามสั่ง สามารถสั่งทำกระบอกไฮดรอลิคคุณภาพดีกับทางเราได้

สนใจสอบถามได้ที่

โทร : 02-026-3854

E-mail : webmaster@teacgroup.com

Facebook : thaiagency

Line ID : @thaiagency

Read More
โซล่ารูฟท็อป 2564 เพิ่มค่าไฟใหม่ 2.20 บาทต่อหน่วย รีบติดโซล่ารูฟท็อปกันเถอะ

โซล่ารูฟท็อป 2564 เพิ่มค่าไฟใหม่ 2.20 บาทต่อหน่วย รีบติดโซล่ารูฟท็อปกันเถอะ

โซล่ารูฟท็อป 2564 เพิ่มค่าไฟใหม่ 2.20 บาทต่อหน่วย รีบติดโซล่ารูฟท็อปกันเถอะ ติดโซล่ารูฟท็อปใครว่าขาดทุนนี่คิดผิดนะคะ เพราะติดครั้งเดียวช่วยให้คุณประหยัดไฟฟ้าจากการไฟฟ้าได้มากถึง 20-25 ปี แถมยังนำไฟฟ้ามาขายคืนได้อีกนะ ยังไงก็คืนทุนแถมได้กำไรเห็น ๆ อยู่บ้านกลางวันแบบสบายใจหมดห่วงเรื่องค่าไฟแพงไปได้เลยค่ะ

หากใครที่สงสัยว่าติดโซล่ารูฟท็อปไปแล้วจะเริ่มเข้าโครงการขายพลังงานแสงอาทิตย์จากโซล่ารูฟท็อปยังไง เรามาดูไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

โซล่ารูฟท็อป 2564 เพิ่มค่าไฟใหม่ 2.20 บาทต่อหน่วย รีบติดโซล่ารูฟท็อปกันเถอะ

โดยหลักเกณฑ์ผู้เข้าร่วมโครงการที่สำคัญ ประกอบด้วย

1.ต้องเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 1 คือเฉพาะบ้านอยู่อาศัยกำลังผลิตติดตั้งโซล่าเซลล์ไม่เกิน​ 10​ กิโลวัตต์

2.เป็นเจ้าของมิเตอร์ที่การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย​ (กฟน.และ​ กฟภ.)​ ​ได้จ่ายไฟฟ้าให้แล้วและมีชื่อในทะเบียนผู้ใช้ไฟฟ้า

3.ผู้ผ่านการพิจารณาต้องติดต่อการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายตามเวลาที่กำหนดเพื่อเปลี่ยนเครื่องวัดไฟฟ้าเป็นประเภทดิจิทัล​และจะต้องลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภายใน 30 วัน โดยมีระยะเวลารับซื้อไฟฟ้า 10 ปี ซึ่งจะต้องจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ภายในปี 2564 เท่านั้น

สำหรับปริมาณรับซื้อไฟฟ้ากำหนดไว้รวม 50 เมกะวัตต์​ แบ่งเป็นการไฟฟ้านครหลวง​ (กฟน.) 15 เมกะวัตต์ และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค​ ( กฟภ. ) 35 เมกะวัตต์

ในส่วนกลุ่มที่ร่วมโครงการโซล่ารูฟท็อปภาคประชาชนที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย​ตั้งแต่ปี 2562 และปี 2563 จะได้รับการปรับอัตรารับซื้อไฟฟ้าจาก 1.68 บาทต่อหน่วย เป็น 2.20 บาทต่อหน่วย เช่นเดียวกับโครงการปี 2564 นี้ ที่มีผลไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2564 ที่ผ่านมา

การประกาศของ ​กกพ.ดังกล่าวเป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ​ (กพช.) เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.2563 ที่ผ่านมาเพื่อให้การจัดหาไฟฟ้าจากโครงการโซล่ารูฟท็อปภาคประชาชนเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และเป็นการผลิตเพื่อใช้เองเป็นหลักส่วนที่เหลือจึงจะขายให้การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายต่อไป

เพียงใช้เกณฑ์ทั้ง 3 ข้อนี้ ก็สามารถผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายให้กับโครงการรับซื้อได้แล้วค่ะ หากคุณสนใจระบบโซล่าเซลล์ Thai-A เราเป็นผู้นำด้านบริการ และจัดจำหน่าย อุปกรณ์ระบบโซล่าเซลล์ครบวงจร เช่น แผงโซล่าเซลล์ แผงโซล่าเซลล์ 320 วัตต์ ปั๊มโซล่าเซลล์ ปั๊มหอยโข่งโซล่าเซลล์ ปั๊มน้ำซับเมอร์ส พร้อมทั้งติดตั้งระบบโซล่าฟาร์ม โซล่ารูฟท็อปราคาจับต้องได้ เรามีประสบการณ์ยาวนาน เจ้าแรกที่ติดตั้งในไทย มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย มาตรฐาน มอก.พร้อมรับประกันงานติดตั้ง 1 ปี

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

โทร : 02-026-3854

E-mail : webmaster@teacgroup.com

Facebook : thaiagency

Line ID : @thaiagency

บทความที่น่าสนใจ

Read More
กระบอกนิวเมติกส์ Thai-A รุ่น 1200 และ 1400 series

กระบอกนิวเมติกส์ Thai-A รุ่น 1200 และ 1400 series

กระบอกนิวเมติกส์ Thai-A รุ่น 1200 และ 1400 series บริษัท Thai-A ได้รับความน่าเชื่อถือจากบริษัทแม่อย่าง Pneumax จากอิตาลี ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายกระบอกนิวเมติกส์และอุปกรณ์นิวเมติกส์ของประเทศไทยที่มีคุณภาพและได้รับมาตรฐานอย่างเป็นทางการมานานกว่า 40 ปี ซึ่งในบทความนี้แอดมินจะมารีวิวกระบอกนิวเมติกส์ของ Pneumax ที่จัดจำหน่ายโดยบริษัท Thai-A รุ่น 1200 และ 1400 Series กันค่ะ

สารบัญ

  • 1200 STAINLESS STEEL SERIES
  • 1230-1231-1232 SERIES
  • 1213 SERIES
  • 1200 SERIES FIXINGS – ACCESSOIRES
  • SENSOR CLAMPS – 1200 SERIES ACCESSORIES
  • 1260-1261-1262 SERIES
  • 1280-1281-1282 SERIES
  • 1280X – 1282X SERIES
  • 1400 SERIES
  • 1450 – 1463 SERIES
  • บทสรุป

1200 STAINLESS STEEL SERIES

กระบอกนิวเมติกส์ 12X สเตนเลสสตีล ตามมาตรฐาน ISO 6432 เป็นรุ่นที่ได้รับการออกแบบสำหรับการใช้งานที่ทนต่อการกัดกร่อน เช่น สภาพแวดล้อมในทะเล ยา และอาหาร กระบอกนิวเมติกส์สแตนเลส AISI 316 ไมโครกระบอก ตามมาตรฐาน ISO 6432

1230-1231-1232 SERIES

ด้วยความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาและการนำผลิตภัณฑ์ที่มีการแข่งขันสูงทางเทคโนโลยีมาใช้ เราจึงได้เปิดตัวไมโครกระบอกสูบเทคโนโพลีเมอร์รุ่น 1230 ซีรีส์ กระบอกนิวเมติกส์รุ่นใหม่นี้สอดคล้องกับมาตรฐาน ISO 6432

1213 SERIES

กระบอกนิวเมติกส์แบบไมโคร เป็นกระบอกลมแบบเดียวกับสปริงด้านหน้า สามารถมีเกลียวทั้งตัวแบบหกเหลี่ยมหรือแบบกลมก็ได้ โดยมีปลายก้านเกลียวหรือแบบระนาบ ซึ่งเป็นกระบอกลมนิวเมติกส์ที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับมาตรฐาน

1200 SERIES FIXINGS – ACCESSOIRES

SENSOR CLAMPS – 1200 SERIES ACCESSORIES

แคลมป์เซนเซอร์ – อุปกรณ์เสริมสำหรับกระบอกนิวเมติกส์รุ่น 1200 Series

1260-1261-1262 SERIES

กระบอกนิวเมติกส์แบบไมโคร เป็นแอคทูเอเตอร์เชิงเส้นที่แพร่หลายที่สุดในการใช้งานทั่วไป เนื่องจากขนาดของกระบอกลมที่เล็กลง สามารถใช้ได้กับภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ตั้งแต่อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ไปจนถึงสิ่งทอ จากเครื่องจักรงานไม้ไปจนถึงภาคเซรามิก และอื่น ๆ กระบอกนิวเมติกส์แบบไมโคร ตามมาตรฐาน ISO 6432 ที่เป็นฝาปิดแบบเกลียว

1280-1281-1282 SERIES

กระบอกนิวเมติกส์แบบไมโคร เป็นแอคทูเอเตอร์เชิงเส้นที่แพร่หลายที่สุดในการใช้งานทั่วไป เนื่องจากขนาดของกระบอกลมที่เล็กลง สามารถใช้ได้กับภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ตั้งแต่อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ไปจนถึงสิ่งทอ จากเครื่องจักรงานไม้ไปจนถึงภาคเซรามิก และอื่น ๆ กระบอกนิวเมติกส์แบบไมโคร ตามมาตรฐาน ISO 6432 ฝาครอบแบบม้วน – “MIR” & “MIR-INOX”

1280X – 1282X SERIES

กระบอกลมนิวเมติกส์แบบไมโคร ตามมาตรฐาน ISO 6432 “MIR-INOX” Series 1200 – ฝาปิดปลายม้วน

1400 SERIES

โดยทั่วไปแล้ว การตรวจสอบการควบคุมความเร็วของไฮดรอลิก จะจับคู่กับกระบอกนิวเมติกส์เพื่อให้มีการควบคุมความเร็วที่สม่ำเสมอ ซึ่งเราจะใช้กระบอกนิวเมติกส์รุ่นนี้ ในการตรวจสอบการควบคุมความเร็วของไฮดรอลิคค่ะ

1450 – 1463 SERIES

ซีรีส์ Hydro-pneumatic ตามมาตรฐาน ISO 6431 เป็นผลมาจากประสบการณ์หลายปีในการผลิตกระบอกนิวเมติกส์และชุดไฮดรอลิกของบริษัท Pneumax ทำให้เกิดกระบอกลมนิวเมติกส์ไฮดรอลิกรุ่นนี้ขึ้นมา

บทสรุป

กระบอกนิวเมติกส์ Series 1200 และ Series 1400 เป็นกระบอกลมที่ถูกออกแบบตามมาตรฐาน ISO ทุกตัว และมีรูปแบบหลากหลายให้เลือกตามการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นกระบอกนิวเมติกส์แบบมีแกน แบบไม่มีแกนสูบ หรือแบบมีสาย อุปกรณ์เหล่านี้ถูกผลิตโดยบริษัทชั้นนำ Pneumax จากอิตาลี และมี Thai-A เป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยที่ได้รับความน่าเชื่อถือเป็นเวลานาน 

สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบนิวเมติกส์ ไม่ว่าจะเป็น กระบอกนิวเมติกส์ วาล์วนิวเมติกส์ และปั๊มลมนิวเมติกส์ Thai-A เราเป็นโรงงานผลิตกระบอกนิวเมติกส์ และเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบนิวเมติกส์มายาวนานกว่า 50 ปี เรายินดีรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ตามสั่ง

สนใจสอบถามได้ที่

โทร : 02-026-3854

Email : webmaster@taecgroup.com

Facebook : thaiagency

Line ID : @thaiagency

บทความที่เกี่ยวข้อง

Read More
สั่งผลิตกระบอกนิวเมติกส์กับ THAI-A ดียังไง

สั่งผลิตกระบอกนิวเมติกส์กับ Thai-A ดียังไง

สั่งผลิตกระบอกนิวเมติกส์กับ Thai-A ดียังไง ในปัจจุบันมีโรงงานที่รับผลิต และจำหน่ายกระบอกนิวเมติกส์หลายแห่งมาก ซึ่งบริษัท ไทยเอเย่นซี เอ็นยีเนียริ่ง จำกัด ก็เป็นอีกหนึ่งโรงงานที่รับผลิต และจำหน่ายกระบอกนิวเมติกส์เช่นเดียวกัน หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่าแล้วทำไมต้องเลือกผลิตกระบอกนิวเมติกส์กับโรงงานของเรา วันนี้แอดมินมีคำตอบมาฝากกันค่ะ

สั่งผลิตกระบอกนิวเมติกส์กับ THAI-A ดียังไง
ผลิตกระบอกนิวเมติกส์เพื่อใช้ในอุตสาหกรรม

สั่งผลิตกระบอกนิวเมติกส์กับ Thai-A ดียังไง

  1. มีกำลังการผลิตสูง สามารถผลิตกระบอกนิวเมติกส์ได้หลากหลายรูปแบบ
  2. กระบอกนิวเมติกส์ทุกชิ้นที่ผลิตผ่านกระบวนการตรวจสอบคุณภาพทุกชิ้น
  3. เรามีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ยาวนานมากว่า 50 ปี
  4. เราผลิตกระบอกนิวเมติกส์ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย
  5. เรามีทีมงานคอยให้คำปรึกษาสำหรับการออกแบบ และสั่งผลิตกระบอกนิวเมติกส์
  6. กระบอกนิวเมติกส์ของเราคุณภาพตามมาตรฐานยุโรป
  7. ผลิต และประกอบชิ้นส่วนทุกชิ้นโดยช่างผู้ชำนาญ

นอกจากนี้บริษัท ไทยเอเย่นซี เอ็นยีเนียริ่ง จำกัด จะจำหน่ายและผลิตกระบอกนิวเมติกส์แล้ว ยังเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า และอุปกรณ์ Pneumax จากอิตาลี ที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการมากว่า 40 ปี พร้อมจำหน่าย ติดตั้ง ให้คำปรึกษาทางด้านวิศวกรรม ระบบนิวเมติกส์ กระบอกนิวเมติกส์ Pneumax Italy ทุกรุ่นอีกด้วย

 สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบนิวเมติกส์ ไม่ว่าจะเป็น กระบอกนิวเมติกส์ วาล์วนิวเมติกส์ และปั๊มลมนิวเมติกส์ Thai-A เราเป็นโรงงานผลิตกระบอกนิวเมติกส์ และเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบนิวเมติกส์มายาวนานกว่า 50 ปี เรายินดีรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ ประกอบกระบอกนิวเมติกส์และรับผลิตกระบอกนิวเมติกส์ตามสั่ง

สนใจสอบถามได้ที่

โทร : 02-026-3854

E-mail : webmaster@teacgroup.com

Facebook : thaiagency

Line ID : @thaiagency

บทความที่เกี่ยวข้อง

Read More