
แผงโซล่าเซลล์ มอก. คืออะไร ทำไมถึงสำคัญ?

แผงโซล่าเซลล์ มอก. คืออะไร ทำไมถึงสำคัญ?
แผงโซล่าเซลล์ มอก. คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญ? การผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการใช้พลังงานที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แผง มอก. เป็นทางเลือกที่น่าสนใจเนื่องจากมีความปลอดภัย คุณภาพ และประสิทธิภาพที่เหนือกว่าแผงโซล่าเซลล์ทั่วไป ในบทความนี้เราจะมาให้ความรู้เกี่ยวกับแผงโซล่าเซลล์ มอก. และเหตุผลที่คุณควรเลือกใช้
แผงโซล่า มอก. คืออะไร?
แผง มอก หมายถึงแผงโซล่าเซลล์ที่ได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ของประเทศไทย มาตรฐาน มอก. เป็นการรับรองว่าแผงโซล่าเซลล์นั้นมีคุณภาพสูง ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพตามข้อกำหนดที่กำหนดไว้
ข้อดีของแผงโซล่าเซลล์ มอก.
ความปลอดภัย
แผงโซล่า มอก. ผ่านการทดสอบด้านความปลอดภัยอย่างละเอียด ทำให้มั่นใจได้ว่า
- การกันน้ำและฝุ่น : แผงโซล่าเซลล์ต้องมีการป้องกันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP (Ingress Protection) เพื่อใช้งานได้ในทุกสภาพอากาศ
- การป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร : มีการทดสอบเพื่อป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรและการปล่อยกระแสไฟฟ้าที่เป็นอันตราย
คุณภาพ
แผงโซล่า มอก. มีการควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอนการผลิต:
- วัสดุคุณภาพสูง : ใช้วัสดุที่มีความทนทานและทนต่อการใช้งานในระยะยาว
- การผลิตที่มีมาตรฐาน : กระบวนการผลิตต้องเป็นไปตามข้อกำหนดมาตรฐานที่กำหนดไว้ ทำให้แผงมีความทนทานและอายุการใช้งานยาวนาน
ประสิทธิภาพ
แผง มอก. มีประสิทธิภาพในการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าสูงกว่า:
- การทำงานในทุกสภาพอากาศ : แผงโซล่า มอก. สามารถทำงานได้ดีในสภาพอากาศที่มีความร้อนสูงหรือเย็นจัด
- ประสิทธิภาพสูง : แผง มอก มีการทดสอบการตอบสนองต่อแสงในช่วงเวลาต่างๆ ของวัน เพื่อให้มั่นใจว่าจะผลิตไฟฟ้าได้มากที่สุด
การรับประกันและบริการหลังการขาย
แผงโซล่า มอก. มักมาพร้อมกับการรับประกันที่ชัดเจนและยาวนาน:
- การรับประกันยาวนาน: ครอบคลุมเป็นเวลาหลายปี ทำให้มั่นใจในคุณภาพและความทนทานของผลิตภัณฑ์
- การบริการหลังการขาย: มีการบริการหลังการขายที่รวดเร็วและมีคุณภาพ พร้อมให้คำปรึกษาและช่วยเหลือเมื่อเกิดปัญหา
ทำไมควรเลือกแผงโซล่าเซลล์ มอก.?
การเลือกใช้แผงโซล่าเซลล์ที่ได้รับมาตรฐาน มอก. จะทำให้คุณมั่นใจได้ว่ากำลังใช้งานแผงโซล่าเซลล์ที่มีคุณภาพสูง ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าในระยะยาว และช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ซื้อแผงโซล่าเซลล์ มอก. ที่ไหนดี?
หากคุณกำลังมองหาแผงโซล่าเซลล์ที่มีมาตรฐาน มอก. บริษัทไทยเอเย่นซี เอ็นยีเนียริ่ง จำกัด เราคือผู้จำหน่ายที่มีความน่าเชื่อถือและมีประสบการณ์ในการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ มอก และมีทีมงานมืออาชีพพร้อมให้คำปรึกษาและบริการติดตั้ง เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ที่ดีที่สุด
ติดต่อเราวันนี้เพื่อรับข้อเสนอพิเศษและบริการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ มอก. เราพร้อมให้คำปรึกษาและบริการติดตั้งโดยทีมงานมืออาชีพ เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ที่ดีที่สุด เลือกแผงโซล่าเซลล์ มอก. เลือกความปลอดภัยและคุณภาพที่คุณไว้วางใจได้
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@teacgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency

กระบอกสูบไฮดรอลิคขนาดเล็ก ทางเลือกใหม่ของงานอุตสาหกรรม
กระบอกสูบไฮดรอลิคขนาดเล็ก ทางเลือกใหม่ของงานอุตสาหกรรม
กระบอกสูบไฮดรอลิคขนาดเล็ก ทางเลือกใหม่ของงานอุตสาหกรรม สำหรับงานยกย้าย เคลื่อนที่ หรือติดตั้งในโรงงานอุตสาหกรรม ระบบไฮดรอลิคจึงถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย อีกทั้งอุปกรณ์ที่มีชื่อว่ากระบอกสูบไฮดรอลิคได้มีการแข่งขันในตลาดมากยิ่งขึ้น

บทความที่เกี่ยวข้อง
- หลักการทำงานของกระบอกสูบไฮดรอลิค
- ป้องกันสิ่งสกปรกเข้าระบบไฮดรอลิคอย่างไรดี ?
- ข้อควรคำนึงในการออกแบบกระบอกสูบไฮดรอลิค
ผู้ผลิตกระบอกสูบไฮดรอลิคแต่ละรายต่างก็มองหาวิธีใหม่เพื่อที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ของตนเองนั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม จึงเกิดรูปแบบของกระบอกสูบไฮดรอลิคขนาดเล็ก หรือที่เรียกกันว่า กระบอกสูบไฮดรอลิคแบบสมาร์ท กำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในอุตสาหกรรมต่างประเทศ และมีการนำมาใช้งานกันอย่างแพร่หลายและต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีการผลิตกระบอกสูบไฮดรอลิคแบบใหม่ สามารถใช้งานได้ทั้งแบบเคลื่อนที่และแบบติดตั้งในอุตสาหกรรม กระบอกสูบไฮดรอลิคแบบสมาร์ท หรือ กระบอกไฮดรอลิคขนาดเล็ก นี้จะมีความทนทานสูงและสามารถรองรับการทำงานในช่วงอุณหภูมิที่กว้างกว่ากระบอกสูบไฮดรอลิคทั่วไป มีให้เลือกใช้ทั้งที่เป็นกระบอกสูบไฮดรอลิคแบบทางเดียวและกระบอกสูบไฮดรอลิคแบบสองทาง
การเลือกซื้อกระบอกสูบไฮดรอลิคขนาดเล็กมาติดตั้งนั้นจะมีหลักเกณฑ์การซื้ออยู่ด้วยกันหลายประการขึ้นอยู่กับการออกแบบและสภาพแวดล้อมการทำงาน เมื่อเราเลือกซื้อกระบอกสูบไฮดรอลิคขนาดเล็ก ( hydraulic cylinder ) มาใช้งานเราควรคำนึงถึงออปชั่นที่สำคัญต่างๆ ด้วยกันดังนี้:
- ตัวถังกระบอกสูบไฮดรอลิคจะต้องสามารถติดตั้งได้ง่ายและสามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งได้ในภายหลัง
- แกนก้านลูกสูบมีก้านสำหรับยึด/ติดตั้ง
- มีหูสำหรับช่วยยึดกับงานเพื่อเสริมความแข็งแรงให้กับกระบอกไฮดรอลิค
- มีแท่นสำหรับยึดตัวกระบอกไฮดรอลิค
- และออปชั่นอื่นๆ ตามที่ผู้ผลิตมีให้
ทางด้านการติดตั้งกระบอกสูบไฮดรอลิคขนาดเล็กนั้นจะคล้ายกับกระบอกไฮดรอลิคทั่วไป คือกระบอกสูบไฮดรอลิคส่วนใหญ่จะสามารถติดตั้งได้หลายรูปแบบอยู่แล้ว นั่นก็คือข้อดีอีกอย่างหนึ่งของกระบอกไฮดรอลิคที่เหล่าผู้ผลิตได้ออกแบบไว้เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า และประสิทธิภาพของกระบอกไฮดรอลิคแบบสมาร์ทนี้ก็ใกล้เคียงกับกระบอกลมหรือกระบอกไฮดรอลิคแบบทั่วไปมาก แต่จะต่างกันที่คุณสมบัติเพียงบางประการเท่านั้น
สุดท้ายในตลาดอุปกรณ์ไฮดรอลิคปัจจุบันมีกระบอกสูบไฮดรอลิคให้เราได้เลือกมาใช้งานหลายประเภท หากคุณยังเป็นมือใหม่ แนะนำให้คุณลองหาข้อมูลพื้นฐานในเรื่องที่คุณกำลังสนใจและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในการติดตั้งระบบไฮดรอลิค อย่าง Thai-A เราคือผู้นำด้านอุปกรณ์ระบบไฮดรอลิค ปั้มไฮดรอลิค นำเข้าสินค้าไฮดรอลิคจากผู้ผลิตกระบอกสูบไฮดรอลิค อุปกรณ์ไฮดรอลิคมายาวนานกว่า 50 ปี และเรามีทีมงานที่มากประสบการณ์คอยให้คำปรึกษาสำหรับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับระบบไฮดรอลิคอีกด้วย
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@teacgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency

โซล่ารูฟท็อป พลังงานทางเลือกสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม
โซล่ารูฟท็อป พลังงานทางเลือกสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม
โซล่ารูฟท็อป พลังงานทางเลือกสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม จะปล่อยให้ต้นทุนหมดไปกับค่าไฟจากการไฟฟ้าอยู่ทำไม ในเมื่อเรานำพลังงานแสงอาทิตย์มาผลิตไฟเองได้ ? คำนี้ทำให้หลายผู้ประกอบการหันมาทำความรู้จักกับโซล่ารูฟท็อปว่าคืออะไรช่วยผลิตไฟฟ้าได้อย่างไรกันมากขึ้น ทั้งนี้ระบบโซล่ารูฟท็อปจึงเป็นตัวช่วยที่น่าสนใจสำหรับผู้ประการ หรือโรงงานอุตสาหกรรมที่มีความจำเป็นในการใช้ไฟฟ้าผลิตสินค้านั่นเอง
ข้อดีของการติดตั้งระบบโซล่ารูฟท็อปในโรงงานอุตสาหกรรม
- ช่วยกิจการประหยัดค่าพลังงานไฟฟ้า ทำให้จำนวนหน่วยการใช้ไฟฟ้าของคุณลดลง
- ลดต้นทุน และเพิ่มกำไรจากการขายไฟฟ้าได้
- พลังงานแสงอาทิตย์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมติดตั้งโซล่ารูฟท็อปแบบไหนดี ?
1. อุตสาหกรรมขนาดเล็ก Small Size (3 kwp )
- Package S (3 kwp )
- ใช้แผง jinko 400 W จำนวน 8 แผ่น มาตรฐาน IEC, Tier 1
- Inverter Huawei SUN-2000-3KTL จำนวน 1 เครื่อง (Inverter ผ่านการรับรองจากการไฟฟ้า)
- ดำเนินการเรื่องเอกสารทางราชการ
- ระยะคืนทุน 4-5 ปี
- ประหยัดการใช้ไฟต่อเดือน (บาท) 1,600 บาท
- พื้นที่ติดตั้ง 16 ตารางเมตร
- สายไฟมาตรฐานสำหรับงานติดตั้ง Solar Cell
- อุปกรณ์ติดตั้งครบชุด
- มีบริการหลังการขาย
2. อุตสาหกรรมขนาดกลาง Medium Size (5 kwp )
- ใช้แผง jinko 400 W จำนวน 13 แผ่น IEC, Tier 1
- Inverter Huawei SUN-2000-5KTL จำนวน 1 เครื่อง (Inverter ผ่านการรับรองจากการไฟฟ้า)
- ดำเนินการเรื่องเอกสารทางราชการ
- ระยะคืนทุน 3-4 ปี
- ประหยัดการใช้ไฟต่อเดือน (บาท) 2,600-3,000 บาท
- พื้นที่ติดตั้ง 26 ตารางเมตร
- สายไฟมาตรฐานสำหรับงานติดตั้ง Solar Cell
- อุปกรณ์ติดตั้งครบชุด
- มีบริการหลังการขาย
3. อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ Large Size (10 kwp)
- ใช้แผง jinko 400 W จำนวน 25 แผ่น IEC,Tier 1
- Inverter Huawei SUN-2000-10KTL จำนวน 1 เครื่อง (Inverter ผ่านการรับรองจากการไฟฟ้า)
- ดำเนินการเรื่องเอกสารทางราชการ
- ระยะคืนทุน 3-4 ปี
- ประหยัดการใช้ไฟต่อเดือน (บาท) 4,500-6,000 บาท
- พื้นที่ติดตั้ง 50 ตารางเมตร
- สายไฟมาตรฐานสำหรับงานติดตั้ง Solar Cell
- อุปกรณ์ติดตั้งครบชุด
- มีบริการหลังการขาย
มาประหยัดไฟฟ้าด้วยการติดตั้งระบบโซล่ารูฟท็อปกันนะคะ ช่วยให้คุณได้ประหยัดงบประมาณ รับประกันคืนทุน 5 ปี หลังจากนี้ก็ใช้ไฟได้เต็มที่กันยาว ๆ ไปเลยค่ะ บอกได้เลยว่าคุ้มมาก
หากคุณสนใจระบบโซล่าเซลล์ Thai-A เราเป็นผู้นำด้านบริการ และจัดจำหน่าย อุปกรณ์ระบบโซล่าเซลล์ครบวงจร เช่น แผงโซล่าเซลล์ แผงโซล่าเซลล์ มอก. ปั๊มโซล่าเซลล์ ปั๊มหอยโข่งโซล่าเซลล์ ปั๊มน้ำซับเมอร์ส พร้อมทั้งติดตั้งระบบโซล่าฟาร์ม โซล่ารูฟท็อปราคาจับต้องได้ เรามีประสบการณ์ยาวนาน เจ้าแรกที่ติดตั้งในไทย มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย มาตรฐาน มอก.พร้อมรับประกันงานติดตั้ง 1 ปี
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@teacgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency

ระบบไฮดรอลิคในรถฟอร์คลิฟท์
ระบบไฮดรอลิคในรถฟอร์คลิฟท์
ระบบไฮดรอลิคในรถฟอร์คลิฟท์ มีความสำคัญต่อการใช้งานรถยก ทำงานโดยใช้ของเหลวอัดแรงดันเป็นกำลังเครื่องยนต์ กำลังไฮดรอลิคสามารถเปลี่ยนของเหลวจำนวนเล็กน้อยให้เป็นกำลังปริมาณมากได้
รถยกส่วนใหญ่ใช้ปั๊มเกียร์และให้การไหลของของเหลวอย่างต่อเนื่องเพื่อจ่ายวาล์วควบคุมไฮดรอลิค วาล์วควบคุมไฮดรอลิค หรือ ( Hydraulic control valve) เริ่มต้นและหยุดทิศทางของของไหล และควบคุมตำแหน่งที่ของไหลไหลผ่านแกนม้วนท่อไปยังตัวกระตุ้นที่ต้องการ วาล์วระบายทำหน้าที่เป็นวาล์วนิรภัยเพื่อป้องกันระบบไฮดรอลิคจากแรงดันไฮดรอลิคมากเกินไป สุดท้ายสายส่งกลับซึ่งส่งคืนของเหลวกลับไปที่ถังและทำให้รอบระบบไฮดรอลิคสมบูรณ์

ส่วนประกอบของฟอล์คลิฟท์ มีดังนี้
1. เสารถฟอล์คลิฟท์ (Mast) คือ อุปกรณ์รางเลื่อนสำหรับให้ส่วนของงาขึ้น-ลง โดยทั่วไปเสารถฟอล์คลิฟท์จะมี 2 ท่อน ซึ่งยกได้ประมาณ 3 เมตร แต่ถ้าต้องการยกได้สูง 5-6 เมตร จะต้องเปลี่ยนเสาให้สูงขึ้น หรือใช้เสา 3 ท่อน (Full Free Mast) เสา 3 ท่อน คือ อุปกรณ์พิเศษของเสา เป็นเสาที่สามารถนำไปใช้ในสถานที่ที่มีความจำกัดได้
2. งารถฟอล์คลิฟท์ (Fork) คือ อุปกรณ์ที่ใช้ยกสิ่งของต่าง ๆ และงายังเป็นอุปกรณ์ที่ “อันตราย” ที่สุด งานของรถฟอล์คลิฟท์มีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับลักษณะของสิ่งของที่ต้องการยก
3. กระบอกไฮดรอลิค ( Hydraulic cylinder ) โดยมาตรฐานรถฟอล์คลิฟท์จะมีกระบอกไฮดรอลิคอยู่ 3 ชุด ดังนี้
3.1) กระบอกยก คือ กระบอกไฮดรอลิคที่ทำหน้าที่ยกงาขึ้นลง มี 2 กระบอก
3.2) กระบอกคว่ำ-หงาย คือ กระบอกไฮดรอลิคที่ทำหน้าที่เอียงเสาไปหน้าและหลัง มี 2 กระบอก
3.3) กระบอกบังคับเลี้ยว คือ กระบอกไฮดรอลิคที่ทำหน้าที่บังคับการเลี้ยวของรถฟอล์คลิฟท์ ในส่วนนี้จะมีกระบอกเดียว
4. ล้อหน้า (Front Wheel) คือ ล้อที่มีหน้าที่ 3 ประการ ดังนี้
4.1) รับน้ำหนักบรรทุก หรือ ล้อโหลด
4.2) ขับเคลื่อน
4.3) เบรค
5. ล้อหลัง (Rear Wheel) คือ ล้อที่ทำหน้าที่บังคับเลี้ยวเพียงอย่างเดียว
สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบไฮดรอลิค ไม่ว่าจะเป็น กระบอกไฮดรอลิค วาล์วมือโยกไฮดรอลิก และปั๊มไฮดรอลิก Thai-A เราเป็นโรงงานผลิตกระบอกไฮดรอลิค และเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบไฮดรอลิคมายาวนานกว่า 50 ปี เรายินดีรับผลิตกระบอกไฮดรอลิค และรับผลิตกระบอกไฮดรอลิคตามสั่ง
บทความที่เกี่ยวข้อง
- สิ่งเจือปนอันตรายกับระบบไฮดรอลิคมากแค่ไหน ?
- ท่อและสายไฮดรอลิคเสียหายทำให้เกิดการบาดเจ็บได้
- กระบอกไฮดรอลิค กับความปลอดภัย
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@teacgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency

ประเภทและประโยชน์ของเซ็นเซอร์ในระบบไฮดรอลิค
ประเภทและประโยชน์ของเซ็นเซอร์ในระบบไฮดรอลิค
อุตสาหกรรมไฮดรอลิคเปลี่ยนแปลงไปมาก เมื่อเราเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 การรวมเซ็นเซอร์ประเภทต่าง ๆ เข้ากับระบบไฮดรอลิคช่วยลดความยุ่งยากในการแก้ไขปัญหาและการบำรุงรักษา เมื่อติดตั้งเซ็นเซอร์ที่เหมาะสมกับระบบของคุณ คุณจะสามารถระบุสถานะความสมบูรณ์ของระบบได้อย่างแม่นยำ และดำเนินการบำรุงรักษาที่จำเป็นโดยเร็วที่สุด และที่สำคัญที่สุด เซ็นเซอร์จะให้มุมมองที่ถูกต้องและครบถ้วนว่าระบบไฮดรอลิคของคุณทำงานอย่างไร พูดง่าย ๆ คือเซ็นเซอร์ในระบบไฮดรอลิคสามารถใช้เพื่อควบคุม และตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของระบบไฮดรอลิคของคุณได้
โดยทั่วไป เซ็นเซอร์เป็นเครื่องมือวัดที่ให้ค่าแบบ real time สำหรับตัวแปรในระบบไฮดรอลิค เช่น ความดัน อัตราการไหล ระดับการบรรจุ อุณหภูมิ หรือการปนเปื้อน สำหรับทุกการใช้งาน การระบุค่าที่ถูกต้องของตัวแปรกระบวนการไฮดรอลิคเหล่านี้จะมีประโยชน์ในการระบุว่าระบบของคุณทำงานอย่างไรและจะเกิดปัญหาในขั้นตอนการทำงานไหนบ้าง
ความดันเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับทุกส่วนประกอบในระบบไฮดรอลิค ส่วนประกอบทุกชิ้นจะมีระดับแรงดันสูงสุดที่สามารถทนได้ ถ้าได้รับความดันที่สูงกว่านั้น ส่วนประกอบนั้นจะได้รับความเสียหาย และนี่ก็จะเป็นตอนที่เรานำเอาเซ็นเซอร์เข้ามาใช้นั่นเองค่ะ โดยที่ผู้ปฏิบัติงานสามารถตรวจสอบค่าความดันเหล่านี้และควบคุมได้เมื่อจำเป็น ซึ่งในบทความนี้แอดมินจะมาบอกถึงประเภทและประโยชน์ของเซ็นเซอร์ในระบบไฮดรอลิคกันค่ะ
สารบัญ
- ประเภทของเซ็นเซอร์ในระบบไฮดรอลิค
- เซ็นเซอร์ความดัน (Pressure sensors)
- เลเวลเซ็นเซอร์ (Level sensors)
- เซ็นเซอร์วัดการไหล (Flow sensors)
- เซ็นเซอร์อุณหภูมิ (Temperature sensors)
- เซ็นเซอร์การปนเปื้อน (Contamination sensors)
- บทสรุป
ประเภทของเซ็นเซอร์ในระบบไฮดรอลิค

- เซ็นเซอร์ความดัน (Pressure sensors)
การใช้งานเซ็นเซอร์ความดันสามารถพบได้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องมือวัดทางชีวการแพทย์ การบิน อุตสาหกรรมทางทะเล เป็นต้น องค์ประกอบหลักของเซ็นเซอร์ความดันคือตัวตรวจจับ เมื่อแรงดันไปถึงตัวตรวจจับ ตัวตรวจจับจะทำปฏิกิริยากับแรงดันนั้นแล้วส่งสัญญาณเอาต์พุตโดยขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีที่ใช้
- เลเวลเซ็นเซอร์ (Level sensors)
เลเวลเซ็นเซอร์ในระบบไฮดรอลิคใช้สำหรับตรวจสอบและควบคุมระดับของของไหลภายในพื้นที่บรรจุ เลเวลเซ็นเซอร์สามารถใช้ในงานอุตสาหกรรม และงานในครัวเรือนได้ เช่น เครื่องชงกาแฟ ตัวบ่งชี้ระดับน้ำมันเชื้อเพลิงในรถยนต์ เป็นต้น เซ็นเซอร์เหล่านี้มีประโยชน์มากในการตรวจจับการรั่วไหลของของเหลว เลเวลเซ็นเซอร์ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ เลเวลเซ็นเซอร์อัลตราโซนิก (ultrasonic level sensors) ใช้สำหรับของเหลวที่มีความเหนียวและวัสดุที่มีความหนาแน่นสูง เลเวลเซ็นเซอร์ความจุ (capacitance level sensors) ใช้สำหรับของเหลวที่มีความข้นและของเหลวที่เหลว เลเวลเซ็นเซอร์ออปติคัล (optical level sensors) ใช้สำหรับตรวจจับการรั่วไหลและวัดระดับถัง และเซ็นเซอร์ออปติคัลไมโครเวฟ (microwave optical sensors) ใช้กับสภาพแวดล้อมที่เป็นไอ มีความชื้น และเต็มไปด้วยฝุ่นควัน
- เซ็นเซอร์วัดการไหล (Flow sensors)
เซ็นเซอร์วัดการไหลเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจสอบและควบคุมอัตราการไหลของของเหลวผ่านระบบไฮดรอลิค เซ็นเซอร์วัดการไหลยังเรียกว่าสวิตช์การไหลหรือเซ็นเซอร์กระแสหรือเครื่องวัดการไหล การประยุกต์ใช้เซ็นเซอร์วัดการไหลสามารถพบได้ในวิศวกรรม พื้นที่ป้องกันการระเบิด การสร้างเครื่องจักรและโรงงาน และการใช้งานที่ไวต่อสุขอนามัย เช่น เครื่องวัดอัตราการไหลของแม่เหล็กไฟฟ้า เครื่องวัดการไหลของกังหัน เครื่องวัดอัตราการไหลของโบลิทาร์ เครื่องวัดอัตราการไหลของมวลความร้อน เป็นต้น
- เซ็นเซอร์อุณหภูมิ (Temperature sensors)
การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิที่สูงกว่าเกณฑ์ที่โรงงานผลิตกระบอกไฮดรอลิคกำหนด จะทำให้ระบบไฮดรอลิคเสียหาย เซ็นเซอร์อุณหภูมิใช้ในวงจรไฮดรอลิคเพื่อตรวจจับอุณหภูมิในระบบไฮดรอลิค การใช้งานทั่วไปของเซ็นเซอร์เหล่านี้ ได้แก่ หน่วยแปรรูปอาหาร อุปกรณ์ทางการแพทย์ การจัดการสารเคมี และระบบควบคุมยานยนต์ เทอร์มิสเตอร์ เซ็นเซอร์อินฟราเรด เป็นต้น พูดง่าย ๆ คือมันเป็นเซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิที่หาได้ทั่วไปนั่นเองค่ะ
- เซ็นเซอร์การปนเปื้อน (Contamination sensors)
เซ็นเซอร์การปนเปื้อนมีบทบาทสำคัญในการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน เซ็นเซอร์เหล่านี้สามารถตรวจสอบการปนเปื้อนหรืออนุภาคที่มีอยู่ในตัวกลางของไหลได้อย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำ จากนั้นจึงแสดงผลในจอภาพแบบดิจิทัลหรือแบบ analog การประยุกต์ใช้เซ็นเซอร์การปนเปื้อนสามารถพบได้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น การก่อสร้าง เกษตรกรรม เหมืองแร่ ทางทะเล และพลังงานลม เป็นต้น
บทสรุป
ในยุคอุตสาหกรรม 4.0 ระบบไฮดรอลิคมีการเปลี่ยนแปลงพัฒนาให้มีการใช้งานที่ง่ายขึ้นและป้องกันการเสียหายจากความดันที่อาจสูงเกินค่าที่โรงงานผลิตกระบอกไฮดรอลิคกำหนดได้ โดยการนำเอาเซ็นเซอร์ไฮดรอลิคเข้ามาประยุกต์ใช้กับงานในระบบ เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถตรวจสอบค่าความดันเหล่านี้และควบคุมไม่ให้เกิดความเสียหายได้ค่ะ
บริษัท Thai-A เป็นทั้งผู้แทนจำหน่ายอุปกรณ์ไฮดรอลิค และผู้รับผลิตกระบอกไฮดรอลิค สามารถสั่งทำกระบอกไฮดรอลิคตามวัตถุประสงค์และตามความเหมาะสมกับงาน โดยผู้เชี่ยวชาญที่เชื่อถือได้
สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบไฮดรอลิค ไม่ว่าจะเป็น กระบอกไฮดรอลิค วาล์วไฮดรอลิค และปั๊มไฮดรอลิค Thai-A เราเป็นโรงงานผลิตกระบอกไฮดรอลิค และเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบไฮดรอลิคมายาวนานกว่า 50 ปี เรายินดีรับผลิตกระบอกไฮดรอลิค และรับผลิตกระบอกไฮดรอลิคตามสั่ง สามารถสั่งทำกระบอกไฮดรอลิคคุณภาพดีกับทางเราได้
บทความที่เกี่ยวข้อง
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@teacgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency

หลักการทำงานของกระบอกลมนิวเมติกส์
หลักการทำงานของกระบอกลมนิวเมติกส์
อุตสาหกรรมส่วนใหญ่จำเป็นต้องมีการสร้างการเคลื่อนที่เชิงเส้นเพื่อให้อุปกรณ์และเครื่องจักรสามารถดำเนินการได้ โดยกระบอกนิวเมติกส์เป็นอุปกรณ์ทางกลที่แปลงพลังงานจากอากาศอัดเป็นการเคลื่อนที่เชิงเส้น กระบอกลมนิวเมติกส์จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำงานของวงการอุตสาหกรรม เนื่องจากกระบอกนิวเมติกส์ถือเป็นถังอากาศที่สามารถตอบโจทย์ในเรื่องค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงมักนัก แต่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งในบทความนี้แอดมินจะมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับหลักการทำงานของกระบอกนิวเมติกส์ขั้นพื้นฐานกันค่ะ
สารบัญ
- ดีไซน์ของกระบอกนิวเมติกส์
- หลักการทำงานของกระบอกนิวเมติกส์
- การตรวจจับตำแหน่งกระบอกนิวเมติกส์
- การกันกระแทก
- บทสรุป
ดีไซน์ของกระบอกลมนิวเมติกส์
ส่วนประกอบหลัก ๆ ของกระบอกลมนิวเมติกส์ คือ (A) พอร์ตปลายท่อ (B) แกนยึด (C) พอร์ตปลายก้าน (D) ลูกสูบ (E) กระบอกสูบ (F) และแกนลูกสูบ ตามรูปภาพข้างล่าง

กระบอกลมทรงเหลี่ยมถูกปิดผนึกที่ปลายทั้งสองข้างด้วยที่ครอบหัวและฝาท้าย ภายในกระบอกนิวเมติกส์นี้ ลูกสูบจะขับเคลื่อนแกนในลักษณะเชิงเส้นตรง เมื่ออากาศอัดเข้ามาทางพอร์ตปลายท่อแล้ว (A) ลูกสูบจะเคลื่อนออกจากฝาปิดและดันก้านสูบออก การเคลื่อนไหวนี้เรียกว่าการเคลื่อนไหวบวก และห้องที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวนี้ เราจะเรียกว่าห้องบวก ส่วนห้องลบจะอยู่ฝั่งตรงข้ามเสมอ และเมื่ออากาศอัดเข้าสู่พอร์ตปลายก้านลูกสูบ (D) ก้านลูกสูบจะถูกดันกลับไปที่ตำแหน่งลบ ตามรูปภาพข้างล่าง

หลักการทำงานของกระบอกนิวเมติกส์
กระบอกนิวเมติกส์สามารถแบ่งออกได้เป็น กระบอกลมแบบ Single Acting และ Double Acting
- กระบอกลมนิวเมติกส์แบบ Single Acting
ในกระบอกลมแบบ Single Acting อากาศจะถูกจ่ายไปยังด้านใดด้านหนึ่งของลูกสูบ และมีหน้าที่ในการเคลื่อนที่ลูกสูบไปในทิศทางเดียวเท่านั้น การเคลื่อนที่ของลูกสูบในทิศทางตรงกันข้ามนั้นจะถูกกระทำโดยสปริงเชิงกล กระบอกลมแบบ Single Acting สามารถออกแบบให้มีตำแหน่งฐานลบ (การคืนสปริง) หรือตำแหน่งฐานบวก (การยืดสปริง) ได้

แต่ข้อเสียของกระบอกลมแบบ Single Acting คือแรงส่งออกไม่สามารถส่งแรงได้เต็มที่ อันเนื่องมาจากแรงสปริงตรงข้าม นอกจากนี้ระยะชักของกระบอกลมแบบ Single Acting สามารถถูกจำกัดได้ เนื่องจากพื้นที่ที่สปริงอัดใช้ ความยาวของสปริงที่พร้อมใช้งาน และความยาวโครงสร้างของกระบอกลมที่ออกครั้งเดียวจะยาวกว่าระยะชักจริง
- กระบอกลมนิวเมติกส์แบบ Double Acting
ในกระบอกนิวเมติกส์แบบ double-acting อากาศจะถูกส่งไปยังห้องทั้งสองด้านของลูกสูบ ความกดอากาศที่สูงขึ้นในด้านหนึ่งสามารถขับเคลื่อนลูกสูบไปอีกด้านหนึ่งได้ กระบอกสูบแบบ Double-acting เป็นประเภทที่นิยมใช้กันมากที่สุด เพราะผู้ใช้สามารถควบคุมกระบอกลมได้อย่างเต็มที่
ข้อดีของกระบอกลมแบบ double-acting คือระยะชักที่ยาวกว่า และแรงขับคงที่ตลอดระยะชักเต็ม กระบอกลมเหล่านี้ให้การควบคุมที่ดีขึ้นและทำงานด้วยอัตราการหมุนเวียนที่สูงขึ้น แต่ข้อเสียของกระบอกสูบแบบ double-acting คือความต้องการอากาศอัดที่มากกว่าสำหรับการเคลื่อนที่ทั้งสองทิศทาง
การตรวจจับตำแหน่งกระบอกนิวเมติกส์
ในการตรวจจับตำแหน่งของลูกสูบ ลูกสูบสามารถติดตั้งแม่เหล็กได้ เซ็นเซอร์ที่ติดตั้งบนตัว กระบอกลมสามารถรับข้อมูลจากสนามแม่เหล็กที่สร้างขึ้นและรับรู้ตำแหน่งของลูกสูบในกระบอกลมได้ Reed สวิตช์และ hall effect เซ็นเซอร์เป็นประเภทเซ็นเซอร์ที่ใช้บ่อยที่สุด
การกันกระแทก (Cushioning)
เมื่อมีอากาศอัดเข้าสู่กระบอกลม การเคลื่อนที่ของลูกสูบในกระบอกนิวเมติกส์จะมีความเร็วมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดการกระแทกอย่างรุนแรงได้เมื่อลูกสูบกระทบที่หัวหรือฝาท้ายกระบอก การกระแทกอย่างรุนแรงจะทำให้เกิดความเสียหายต่อส่วนประกอบต่าง ๆ ในกระบอกลม ทำให้เกิดเสียงดัง และเกิดการสั่นสะเทือนไปยังโครงสร้างของเครื่องจักรได้ เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น โรงงานผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์สามารถชะลอความเร็วของลูกสูบที่บริเวณฝาครอบด้วยการกันกระแทก การกันกระแทกยังสามารถป้องกันไม่ให้ลูกสูบเด้งออกจากตำแหน่งสุดท้าย โรงงานผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ส่วนใหญ่จะติดตั้งระบบลดแรงกระแทกเมื่อสิ้นสุดระยะชักด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง เช่น ติดตั้งโช๊คอัพแบบยืดหยุ่น (Flexible shock absorbers) หรือเบาะลมแบบปรับได้ (Adjustable pneumatic cushioning)
บทสรุป
กระบอกลมนิวเมติกส์จะแปลงพลังงานกลให้กลายเป็นการเคลื่อนที่เชิงเส้น โดยกระบอกลมจะถูกปิดผนึกที่ปลายทั้งสองข้างด้วยที่ครอบหัวและฝาท้าย ภายในกระบอกลมนิวเมติกส์นี้ ลูกสูบจะขับเคลื่อนแกนในลักษณะเชิงเส้นตรง เมื่ออากาศอัดเข้ามาทางพอร์ตปลายท่อแล้ว ลูกสูบจะเคลื่อนออกจากฝาปิดและดันก้านสูบออก
บริษัท Thai-A เป็นทั้งผู้แทนจำหน่ายอุปกรณ์นิวเมติกส์ และผู้รับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ สามารถสั่งทำกระบอกลมนิวเมติกส์ตามวัตถุประสงค์และตามความเหมาะสมกับงาน โดยผู้เชี่ยวชาญที่เชื่อถือได้
สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบนิวเมติกส์ ไม่ว่าจะเป็น กระบอกลมนิวเมติกส์ วาล์วนิวเมติกส์ และปั๊มลมนิวเมติกส์ Thai-A เราเป็นโรงงานผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบนิวเมติกส์มายาวนานกว่า 50 ปี เรายินดีรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ตามสั่ง สามารถสั่งทำกระบอกลมนิวเมติกส์ที่มีคุณภาพกับทางเราได้
บทความที่น่าสนใจ
- แรงดันสูงในอากาศส่งผลดี – เสียต่อนิวเมติกส์อย่างไรบ้าง ?
- สั่งผลิตกระบอกนิวเมติกส์กับ THAI-A ดียังไง
- กระบอกนิวเมติกส์ THAI-A รุ่น 1200 และ 1400 SERIES
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
Email : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency

แรงดันสูงในอากาศส่งผลดี – เสียต่อนิวเมติกส์อย่างไรบ้าง ?
แรงดันสูงในอากาศส่งผลดี – เสียต่อนิวเมติกส์อย่างไรบ้าง ?
แรงดันสูงในอากาศส่งผลดี – เสียต่อนิวเมติกส์อย่างไรบ้าง ระบบนิวเมติกส์ Pneumatic System มีความจําเป็นมากที่จะต้องใช้ลมอัด เพื่อไปควบคุมการทํางานในระบบ และอุปกรณ์ที่ผลิตลมอัดก็คือ เครื่องอัดลม หรือ Air Compressor ซึ่งมีหน้าที่หลักคือ ทําการอัดลมหรืออากาศเข้าไปเก็บไว้ในถังเก็บลม
สำหรับใครอยากรู้ว่าลมอัดแรงดันอากาศสูงหรือมีข้อดีข้อเสียอย่างไรต่ออุปกรณ์นิวเมติกส์ หรือระบบนิวเมติกส์ วันนี้แอดมินมีคำตอบมาบอกกัน จะเป็นอย่างไรตามแอดมินไปดูกันเลยค่ะ

ข้อดีของแรงดันอากาศสูง
- แรงดันอากาศที่มีแรงดันสูงหรือลมอัดนั้นจะมีความทนต่อการระเบิดได้สูง ซึ่งแรงดันอากาศสูงจะไม่มีอันตรายจากการระเบิด หรือติดไฟ ดังนั้นอุปกรณ์ที่ใช้ลมอัดจะมีราคาถูก สามารถซ่อมแซม หรือบำรุงรักษาได้ง่าย
- อุปกรณ์ที่ใช้ลูกสูบในการทำงานอย่างเช่น กระบอกนิวเมติกส์ จะนิยมใช้แรงดันอากาศสูงในการกระตุ้นการทำงาน โดยลูกสูบของกระบอกนิวเมติกส์ จะมีความเร็วในการทำงานตั้งแต่ 1 ถึง 2 m/s ถ้าเป็นกระบอกนิวเมติกส์ที่มีลูกสูบแบบพิเศษจะสามารถทำงานได้เร็วถึง 10 m/s
- แรงดันสูง หรือลมอัดที่ใช้แล้วไม่จำเป็นต้องนำกลับมาใช้งานใหม่ เราสามารถปล่อยลมอัด หรือแรงดันสูงนั้นทิ้งออกสู่บรรยากาศได้เลย การส่งถ่ายสามารถทำได้ง่าย และยังสามารถเดินท่อลมอัด หรือท่อจ่ายแรงดันอากาศสูงได้ในระยะทางที่ไกลได้อีกด้วย
- ลมอัด หรือแรงดันอากาศสูงสามารถเก็บไว้ในถังลมเฉพาะ เพื่อการนำไปใช้งานที่ต่อเนื่องได้
- มีความปลอดภัยสูงเพราะอุปกรณ์ที่ใช้ลมอัด หรือแรงดันอากาศสูงนี้จะไม่เกิด หรือเกิดความเสียหายจากงานที่ผิดพลาด หรืองานที่เกินกำลัง
- ลมอัดแรงดันสูงนี้สามารถควบคุมได้ง่าย โดยเราสามารถใช้อุปกรณ์นิวเมติกส์อื่น ๆ มาใช้ในการควบคุมได้ อย่างเช่น เกจควบคุมแรงดัน หรือวาล์วควบคุมแรงดัน เป็นต้น
- ลมอัด หรือแรงดันอากาศสูงมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สะอาด ซึ่งอุปกรณ์ที่นำลมอัด หรือแรงดันสูงนี้ไปใช้งานก็จะมีความสะอาดด้วยเช่นกัน
- มีความยืดหยุ่นมากกว่ากระบอกไฮดรอลิค ทั้งในด้านการทำงาน ราคา การออกแบบ การติดตั้ง และการบำรุงรักษาในระยะยาวที่ดีกว่าอีกด้วย
ข้อเสียของแรงดันอากาศสูง
- จริง ๆ แล้วแรงดันอากาศสูง หรือลมอัด สามารถหดตัวหรือขยายตัวได้ ซึ่งอาจจะทำให้การเคลื่อนที่ของอุปกรณ์ที่ใช้แรงดันอากาศ หรือลมอัด ไม่แม่นยำได้
- แรงดันอากาศสูง หรือลมอัดสามารถทำให้เกิดหยดน้ำในถังเก็บลม หรือท่อลมเมื่อเย็นตัวได้ ดังนั้นผู้ที่นำอุปกรณ์ที่ใช้แรงดันอากาศสูง หรือลมอัดไปใช้งานควรตรวจสอบหยดน้ำ ความชื้น ของอุปกรณ์ด้วย เพราะความชื้นหรือหยดน้ำเหล่านี้อาจจะทำให้อุปกรณ์นิวเมติกส์เสีย ชำรุด หรือไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพได้
- อุปกรณ์ที่ใช้แรงดันอากาศสูง หรือลมอัดจะมีเสียงค่อนข้างดังเมื่ออุปกรณ์ทำงาน อย่างเช่น เมื่อมีการระบายลมหรือความชื้นออกจากอุปกรณ์อย่างปั๊มลม แอร์คอมเพรสเซอร์ จะเห็นได้ว่าบางครั้งเราจะได้ยินเสียงที่ค่อนข้างดังมาก ดังนั้นถ้ามีความจำเป็นที่จะต้องใช้อุปกรณ์นิวเมติกส์ที่ใช้แรงดันอากาศสูง หรือลมอัดจริง ๆ ควรหาอุปกรณ์ที่ใช้ในการเก็บเสียง หรือไซเรนเซอร์มาช่วยในการเก็บเสียงอีกครั้งหนึ่ง
- เมื่ออุณหภูมิมีการเปลี่ยนแปลงจะทำให้ความดันของแรงดันอากาศสูง หรือ ลมอัดอาจเปลี่ยนแปลงได้
- แรงดันอากาศสูง หรือลมอัดจะต้องมีอุปกรณ์ที่ใช้งานได้อย่างเพียงพออย่างเช่น ถ้ามีใช้งาน กระบอกนิวเมติกส์ ที่มีขนาดใหญ่ หรือปืนลมที่มีการใช้งานอย่างต่อเนื่อง ควรมีอุปกรณ์ที่สามารถสร้างลมอัด หรือแรงดันสูงได้อย่างต่อเนื่อง ไม่เช่นนั้นแล้วจะทำให้อุปกรณ์ หรืองานล่าช้า หรือขาดช่วงการทำงานได้
สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบนิวเมติกส์ ไม่ว่าจะเป็น กระบอกนิวเมติกส์ วาล์วนิวเมติกส์ และปั๊มลมนิวเมติกส์ Thai-A เราเป็นโรงงานผลิตกระบอกนิวเมติกส์ และเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบนิวเมติกส์มายาวนานกว่า 50 ปี เรายินดีรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ ประกอบกระบอกนิวเมติกส์และรับผลิตกระบอกนิวเมติกส์ตามสั่ง
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@teacgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency

สิ่งเจือปนอันตรายกับระบบไฮดรอลิคมากแค่ไหน ?
สิ่งเจือปนอันตรายกับระบบไฮดรอลิคมากแค่ไหน ?
สิ่งเจือปนอันตรายกับระบบไฮดรอลิคมากแค่ไหน ความเสียหายของระบบไฮดรอลิคมักเกิดขึ้นจากการมีสิ่งเจือปนในน้ำมันไฮดรอลิค แน่นอนเมื่อระบบไฮดรอลิคเกิดความเสียหาย ผลกระทบอื่นๆ จากระบบไฮดรอลิคย่อมเกิดปัญหาตามมาด้วย เช่น
- เสียเวลาในการผลิต (Down Time) ของเครื่องจักรที่เกิดความเสียหาย ตลอดจนสายการผลิตที่เกี่ยวข้อง
- เสียค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนอะไหล่หรือชิ้นส่วนของอุปกรณ์ไฮดรอลิคที่ชำรุดเสียหาย
- เสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินการและการซ่อมบำรุง
- จำนวนของเสียที่เพิ่มขึ้น (Scrap Rate) เนื่องจากความผิดปกติหรือความเสียหายของเครื่องจักร
ส่วนผลเสียที่เกิดขึ้นกับเครื่องจักรและส่วนประกอบของเครื่องจักรเนื่องจากการที่มีสิ่งสกปรกเจือปนที่เกิดขึ้นได้ เช่น
- โซลินอยด์วาล์วไหม้ ชำรุดเสียหายหรือทำงานผิดปกติ
- การเคลื่อนที่ของวาล์วไม่สมูททำให้เกิดเสียงดังผิดปกติขณะวาล์วเคลื่อนที่
- ปั๊มไฮดรอลิคชำรุดเสียหาย เกิดเสียงดังผิดปกติ ประสิทธิภาพในการทำงานของปั๊มไฮดรอลิคลดลง
- กระบอกไฮดรอลิคเป็นรอยหรือรั่วซึม

การปนเปื้อนอาจเกิดจากน้ำมันไฮดรอลิค, สิ่งแวดล้อม, การสึกหรอของระบบ, กระบวนการผลิตและการบำรุงรักษา การปนเปื้อนสามารถเกิดขึ้นได้เมื่อมีการเคลื่อนที่ของชิ้นส่วนในระบบ วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือตรวจสอบความสะอาดของน้ำมันและตัวกรองน้ำมันอยู่เสมอ หากคุณสังเกตเห็นแกนและพื้นผิวกระบอกไฮดรอลิคมีรอยขีดข่วน, การสึกหรอของซีลและมีน้ำมันรั่ว นั่นอาจเป็นผลมาจากการปนเปื้อน ควรตรวจสอบและแก้ไขโดยเร็วที่สุด
สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบไฮดรอลิค (Hydraulic System) ต้องการสั่งทำกระบอกไฮดรอลิค หรือสนใจวาล์วไฮดรอลิค และปั๊มไฮดรอลิค เป็นต้น Thai-A เป็นโรงงานที่รับผลิตกระบอกไฮดรอลิคได้ตามความต้องการ รับผลิตและประกอบกระบอกไฮดรอลิคได้มาตรฐานสากล เราพร้อมผลิตสินค้าเพื่อธุรกิจของท่านด้วยผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับไฮดรอลิคมายาวนานกว่า 50 ปี และเรามีทีมงานที่มากประสบการณ์คอยให้คำปรึกษาท่านอยู่
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@teacgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency

ท่อและสายไฮดรอลิคเสียหายทำให้เกิดการบาดเจ็บได้
ท่อและสายไฮดรอลิคเสียหายทำให้เกิดการบาดเจ็บได้
ท่อและสายไฮดรอลิคเสียหายทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ ไม่มีอะไรที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบไฮดรอลิคและต่อผู้ปฏิบัติงานในระบบได้มากกว่าท่อไฮดรอลิคที่เสียหายหรือแตก สายและท่อไฮดรอลิคเปรียบเสมือนหลอดเลือดแดงของระบบไฮดรอลิค ที่ลำเลียงของไหลจากปั๊มไปยังกระบอกสูบไฮดรอลิค เช่นเดียวกับร่างกายของคนเรา เมื่อหลอดเลือดแดงมีปัญหา เลือดจะไม่สามารถไหลไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้ ทำให้หลอดเลือดทำงานได้ไม่ดี หรือแย่ที่สุดคือไม่ทำงานเลย ซึ่งท่อและสายไฮดรอลิคก็เหมือนกันค่ะ หากน้ำมันไฮดรอลิคไม่สามารถไหลไปยังกระบอกสูบได้ กระบอกสูบไฮดรอลิคจะไม่สามารถทำงานได้ แต่ที่แย่กว่านั้นคือปั๊มไฮดรอลิคสามารถสร้างแรงดันที่สูงสุดถึง 10,000 psi หรือสูงกว่านั้น ต่างจากค่าความดันของหัวใจที่สูบฉีดเลือดไปทั่วร่างกาย ซึ่งแรงดันที่มากมายขนาดนี้จะทำให้ท่อที่แตกร้าวกลายเป็นอาวุธที่ร้ายแรง เพราะเมื่อท่อไฮดรอลิคแตก มันสามารถยิงของเหลวไฮดรอลิคที่สามารถเจาะผิวหนังของคุณทำให้เกิดแผลไหม้และติดเชื้อได้ และในบางกรณีก็ถึงขั้นสามารถทำให้แขนขาขาดและถึงแก่ชีวิตได้ ฉะนั้นเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาเล็ก ๆ ซึ่งในบทความนี้แอดมินจะมาบอกแนวทางการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อตรวจสอบและทดสอบท่ออ่อนก่อนนำไปใช้งานค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง
- 5 ความเชื่อผิด ๆ ที่ส่งผลต่อระบบไฮดรอลิค
- การทำงานของไฮดรอลิกในเครื่องขุดร่องลึก ในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง
แนวทางปฏิบัติต่อสายท่อไฮดรอลิค
- ตรวจสอบสายยางทั้งหมดก่อนเริ่มงาน
สายท่อที่ชำรุดจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ ฉะนั้นก่อนลงมือปฏิบัติงานให้ตรวจหาสิ่งต่อไปนี้ทุกครั้ง
- – ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีข้องอในท่อ โดยให้ใส่ใจบริเวณปลายท่อเป็นพิเศษ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าปลอกป้องกันยังคงอยู่ เพราะปลอกหุ้มจะป้องกันการโค้งงอที่คมใกล้กับจุดต่อไฮดรอลิค
- ระวังค่าเผื่อการโค้งงอขั้นต่ำสำหรับท่อของคุณ – เมื่อท่อไฮดรอลิคได้รับแรงดัน มันจะแข็งตัวและทำให้ระบบตึงมากขึ้น โดยเฉพาะที่ส่วนปลาย ฉะนั้นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีพื้นที่เพียงพอสำหรับการเคลื่อนไหวนี้
- ตรวจสอบข้อบกพร่องของท่ออย่างใกล้ชิด – ตรวจสอบรูเข็ม รอยถลอก รอยแตก หรือรอยตัด หากมีสิ่งเหล่านี้ให้เปลี่ยนท่อทันที
- ปกป้องท่อไฮดรอลิคเสมอ
อย่าให้ความร้อน ประกายไฟ สารเคมีที่อาจสร้างความเสียหายมาโดนสายท่อ ห้ามลากท่อบนพื้น ห้ามเหยียบสายท่อหรืออนุญาตให้ใครก็ตามใช้สายท่อเป็นที่จับเมื่อต้องการเคลื่อนย้ายกระบอกสูบไฮดรอลิค
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าท่อได้รับการจัดอันดับอย่างถูกต้อง
ท่อไฮดรอลิคต้องได้รับการจัดอันดับสำหรับแรงดันสูงสุดในระบบ ในกรณีส่วนใหญ่ ท่อต้องได้รับการจัดอันดับให้เทียบเท่าหรือสูงกว่าพิกัดแรงดันสำหรับปั๊ม ท่อไฮดรอลิคของคุณจะมีสองระดับ หนึ่งคือแรงดันใช้งาน นั่นคือแรงดันปกติ (ควรเท่ากับปั๊ม) และอีกอันคือแรงดัน “ระเบิด” นั่นคือแรงดันที่ท่ออาจแตก ค่านี้ควรเป็นอย่างน้อยสองเท่าของแรงดันใช้งาน ตัวอย่างเช่น ท่อขนาด 10,000 psi ควรมีแรงดันระเบิดที่ 20,000 psi หรือมากกว่า บางครั้ง ท่ออาจมีแรงดันระเบิดถึง 4 เท่าของแรงดันใช้งาน ตัวอย่างเช่น ท่อ 3,000 psi ที่มีระดับการแตก 4X จะมีระดับการแตกที่ 12,000 psi แม้ว่าแรงดันระเบิดจะอยู่ที่ 12,000 psi แต่ไม่ควรใช้ในระบบ 10,000 psi เพราะมันจะไม่ปลอดภัยค่ะ
บทสรุป
สายท่อไฮดรอลิคเปรียบเสมือนหลอดเลือดแดงในร่างกายคนเรา โดยสายท่อนี้จะลำเลียงของไหลจากปั๊มไปยังกระบอกไฮดรอลิค เพื่อให้กระบอกสูบสามารถทำงานได้ เช่นเดียวกับหลอดเลือดแดงที่ลำเลียงน้ำและเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย แต่ปั๊มไฮดรอลิคมีความดันที่สูงกว่าหัวใจของเรามาก ทำให้หากสายท่อมีการแตกร้าวหรือรั่ว อาจเกิดแรงดันระเบิดและทำให้ผู้ปฏิบัติใกล้เคียงได้รับอันตรายได้ ฉะนั้นทุกครั้งก่อนใช้งานระบบไฮดรอลิค ต้องมีการตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าสายยางท่อนั้นไม่มีจุดใดที่เสียหายเลย อย่างไรก็ตามผู้อ่านควรซื้อหรือสั่งทำกระบอกไฮดรอลิคจากผู้เชี่ยวชาญ และให้เขาตรวจสอบสายท่อเมื่อทำการประกอบกระบอกไฮดรอลิคเข้ากับส่วนต่าง ๆ ในระบบค่ะ
บริษัท Thai-A เป็นทั้งผู้แทนจำหน่ายอุปกรณ์ไฮดรอลิค และผู้รับผลิตกระบอกไฮดรอลิค สามารถสั่งทำกระบอกไฮดรอลิคตามวัตถุประสงค์และตามความเหมาะสมกับงาน โดยผู้เชี่ยวชาญที่เชื่อถือได้
สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบไฮดรอลิค ไม่ว่าจะเป็น กระบอกสูบไฮดรอลิค วาล์วไฮดรอลิค และปั๊มไฮดรอลิค Thai-A เราเป็นโรงงานผลิตกระบอกไฮดรอลิค และเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบไฮดรอลิคมายาวนานกว่า 50 ปี เรายินดีรับผลิตกระบอกไฮดรอลิค และรับผลิตกระบอกไฮดรอลิคตามสั่ง สามารถสั่งทำกระบอกไฮดรอลิคคุณภาพดีกับทางเราได้
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@teacgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency

โซล่ารูฟท็อป 2564 เพิ่มค่าไฟใหม่ 2.20 บาทต่อหน่วย รีบติดโซล่ารูฟท็อปกันเถอะ
โซล่ารูฟท็อป 2564 เพิ่มค่าไฟใหม่ 2.20 บาทต่อหน่วย รีบติดโซล่ารูฟท็อปกันเถอะ
ติดโซล่ารูฟท็อปใครว่าขาดทุนนี่คิดผิดนะคะ เพราะติดครั้งเดียวช่วยให้คุณประหยัดไฟฟ้าจากการไฟฟ้าได้มากถึง 20-25 ปี แถมยังนำไฟฟ้ามาขายคืนได้อีกนะ ยังไงก็คืนทุนแถมได้กำไรเห็น ๆ อยู่บ้านกลางวันแบบสบายใจหมดห่วงเรื่องค่าไฟแพงไปได้เลยค่ะ
หากใครที่สงสัยว่าติดโซล่ารูฟท็อปไปแล้วจะเริ่มเข้าโครงการขายพลังงานแสงอาทิตย์จากโซล่ารูฟท็อปยังไง เรามาดูไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

โดยหลักเกณฑ์ผู้เข้าร่วมโครงการที่สำคัญ ประกอบด้วย
1.ต้องเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 1 คือเฉพาะบ้านอยู่อาศัยกำลังผลิตติดตั้งโซล่าเซลล์ไม่เกิน 10 กิโลวัตต์
2.เป็นเจ้าของมิเตอร์ที่การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย (กฟน.และ กฟภ.) ได้จ่ายไฟฟ้าให้แล้วและมีชื่อในทะเบียนผู้ใช้ไฟฟ้า
3.ผู้ผ่านการพิจารณาต้องติดต่อการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายตามเวลาที่กำหนดเพื่อเปลี่ยนเครื่องวัดไฟฟ้าเป็นประเภทดิจิทัลและจะต้องลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภายใน 30 วัน โดยมีระยะเวลารับซื้อไฟฟ้า 10 ปี ซึ่งจะต้องจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ภายในปี 2564 เท่านั้น
สำหรับปริมาณรับซื้อไฟฟ้ากำหนดไว้รวม 50 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) 15 เมกะวัตต์ และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ( กฟภ. ) 35 เมกะวัตต์
ในส่วนกลุ่มที่ร่วมโครงการโซล่ารูฟท็อปภาคประชาชนที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายตั้งแต่ปี 2562 และปี 2563 จะได้รับการปรับอัตรารับซื้อไฟฟ้าจาก 1.68 บาทต่อหน่วย เป็น 2.20 บาทต่อหน่วย เช่นเดียวกับโครงการปี 2564 นี้ ที่มีผลไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2564 ที่ผ่านมา
การประกาศของ กกพ.ดังกล่าวเป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.2563 ที่ผ่านมาเพื่อให้การจัดหาไฟฟ้าจากโครงการโซล่ารูฟท็อปภาคประชาชนเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และเป็นการผลิตเพื่อใช้เองเป็นหลักส่วนที่เหลือจึงจะขายให้การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายต่อไป
เพียงใช้เกณฑ์ทั้ง 3 ข้อนี้ ก็สามารถผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายให้กับโครงการรับซื้อได้แล้วค่ะ หากคุณสนใจระบบโซล่าเซลล์ Thai-A เราเป็นผู้นำด้านบริการ และจัดจำหน่าย อุปกรณ์ระบบโซล่าเซลล์ครบวงจร เช่น แผงโซล่าเซลล์ แผงโซล่าเซลล์ มอก. ปั๊มโซล่าเซลล์ ปั๊มหอยโข่งโซล่าเซลล์ ปั๊มน้ำซับเมอร์ส พร้อมทั้งติดตั้งระบบโซล่าฟาร์ม โซล่ารูฟท็อปราคาจับต้องได้ เรามีประสบการณ์ยาวนาน เจ้าแรกที่ติดตั้งในไทย มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย มาตรฐาน มอก.พร้อมรับประกันงานติดตั้ง 1 ปี
บทความที่น่าสนใจ
- ขออนุญาตติดตั้งโซล่ารูฟท็อปออนไลน์กับ MEA ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก
- ติดตั้งระบบโซล่ารูฟท็อปแบบไหนที่เชื่อมต่อกับการไฟฟ้าได้ ?
- บ้านแบบไหนที่ติดโซล่ารูฟท็อปแล้วคุ้มค่า ?
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@teacgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency