วิธีการเลือกกระบอกสูบไฮดรอลิกสำหรับงานยก
วิธีการเลือกกระบอกสูบไฮดรอลิกสำหรับงานยก
วิธีการเลือกกระบอกสูบไฮดรอลิกสำหรับงานยก การเลือกหาขนาดกระบอกสูบไฮดรอลิกให้เหมาะสมกับงานยกแต่ละประเภทเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นการยกของของชิ้นเล็ก ๆ ไปจนถึงการยกของหนัก หากเลือกกระบอกสูบที่เล็กเกินไป คุณจะไม่สามารถยกของนั้นได้และอาจทำให้เกิดอันตรายต่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานได้ อย่างน้อยที่สุดคุณอาจจะต้องกลับไปที่ร้านเพื่อซื้อกระบอกสูบไฮดรอลิกที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เพราะฉะนั้นการเลือกกระบอกสูบไฮดรอลิกจึงไม่ควรเป็นเกมการเดา และเพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้น เราจึงควรคิดหาความจุโหลดของกระบอกสูบไฮดรอลิกก่อนที่จะเริ่มงาน การคำนวณอย่างง่ายจะช่วยให้มั่นใจได้ว่ากระบอกสูบไฮดรอลิกของคุณจะสามารถรับมือกับงานที่คุณต้องการจะยกได้ ซึ่งในบทความนี้แอดมินจะมาบอกถึงวิธีการคำนวณขนาดของกระบอกสูบไฮดรอลิกให้เหมาะกับงานยกของผู้อ่านกันค่ะ
สารบัญ
- วิธีคิดหาขนาดของกระบอกสูบไฮดรอลิก Hydraulic cylinder
- ขั้นตอนที่ 1: ประเมินน้ำหนักสิ่งของที่คุณจะยก
- ขั้นตอนที่ 2: หาค่าแรงดันไฮดรอลิก
- ขั้นตอนที่ 3: หาจำนวนจุดยึด
- ขั้นตอนที่ 4: คำนึงถึงปัจจัยด้านความปลอดภัยเสมอ
วิธีคิดหาขนาดของกระบอกสูบไฮดรอลิก
ขั้นตอนที่ 1 : ประเมินน้ำหนักสิ่งของที่คุณจะยก
คุณจำเป็นต้องรู้ถึงน้ำหนักโดยประมาณของสิ่งของที่คุณต้องการจะยก และถ้าสามารถรู้น้ำหนักได้แม่นยำมากเท่าไหร่ ยิ่งดีมากเท่านั้น แต่ถ้าคุณไม่สามารถรู้แน่ชัดได้ และต้องประเมินน้ำหนักคร่าว ๆ แอดมินแนะนำให้คุณตั้งค่าน้ำหนักที่บวกเพิ่มขึ้นไปอีก คิดซะว่าเกินดีกว่าขาดค่ะ เพราะคุณคงไม่อยากให้การยกล้มเหลวแน่นอน ฉะนั้นการพิจารณาว่าของที่ต้องการจะยกมีน้ำหนักเท่าไหร่ จึงมีความสำคัญต่อการตัดสินใจเลือกใช้กระบอกสูบไฮดรอลิก
ขั้นตอนที่ 2 : รู้ค่าแรงดันไฮดรอลิก
แรงดันไฮดรอลิกจากปั๊มไฮดรอลิกของคุณต้องมีเพียงพอ เพื่อให้มีแรงดันที่เพียงพอต่อการทำงานของกระบอกสูบไฮดรอลิกและสามารถยกน้ำหนักที่ต้องการได้ ขนาดของกระบอกสูบจะเปล่าประโยชน์ไปเลย หากคุณไม่สามารถจ่ายแรงดันที่เพียงพอได้
ขั้นตอนที่ 3 : หาจำนวนจุดยึด
ลิฟต์บางตัวเป็นลิฟต์แบบจุดเดียวธรรมดา แต่บางครั้งอาจไม่สามารถปรับสมดุลน้ำหนักบรรทุกด้วยจุดเดียวได้ ดังนั้นจึงต้องใช้สองจุดขึ้นไป เมื่อคุณทราบจำนวนจุดยึดและน้ำหนักบรรทุกทั้งหมดที่คุณจะยก คุณสามารถคำนวณหาขนาดกระบอกสูบที่ต้องการได้ โดยการหารน้ำหนักที่ต้องการยกทั้งหมดด้วยจำนวนจุด ตัวอย่างเช่น การบรรทุกน้ำหนัก 100 ตันที่มีจุดยึดหนึ่งจุดจะต้องใช้กระบอกสูบไฮดรอลิกอย่างน้อย 100 ตัน ในขณะที่การบรรทุกแบบเดียวกันที่มีจุดยึด สี่จุดนั้นจะต้องใช้กระบอกสูบไฮดรอลิกขนาด 25 ตัน จำนวน 4 กระบอก
#ขั้นตอนที่ 4: คำนึงถึงปัจจัยด้านความปลอดภัยเสมอ
คุณคงไม่อยากให้กระบอกสูบไฮดรอลิกทำงานเกินขีดจำกัดความจุของกระบอกสูบไฮดรอลิกอย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้ อย่างน้อยที่สุด คุณควรใช้กระบอกสูบที่มีความจุ 125% ของความจุที่ต้องการ และถ้าเป็นไปได้ คุณควรมีกระบอกสูบ ที่สามารถรับน้ำหนักได้ 1.5 เท่าถึง 2 เท่าของน้ำหนักที่คุณต้องการยก
บทสรุป
การประเมินค่าโดยประมาณของงานที่เราต้องการจะยก ค่าแรงดันของปั๊มไฮดรอลิกที่คุณมีอยู่ในขณะนี้ เป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อหาค่าขนาดกระบอกสูบไฮดรอลิก และการเลือกขนาดกระบอกสูบไฮดรอลิกให้เหมาะสมกับงานที่เราต้องการจะยกนั้นเป็นสิ่งที่เราจะต้องคำนึง มิฉะนั้นอาจเกิดความเสียหายไม่มากก็น้อยตามมาได้นั่นเองค่ะ ซึ่งเราสามารถหาค่าขนาดกระบอกสูบอย่างง่าย ๆ ตาม 4 ขั้นตอนที่กล่าวมา หรือคุณสามารถสอบถามคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเรื่องกระบอกสูบไฮดรอลิกก่อนซื้อได้ค่ะ
สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบไฮดรอลิก ไม่ว่าจะเป็น กระบอกสูบไฮดรอลิก วาล์วไฮดรอลิก และปั๊มไฮดรอลิก Thai-A เราเป็นโรงงานผลิตกระบอกสูบไฮดรอลิก และเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบไฮดรอลิกมายาวนานกว่า 50 ปี เรายินดีรับผลิตกระบอกสูบไฮดรอลิก และรับผลิตกระบอกสูบไฮดรอลิกตามสั่ง
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@teacgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency
เกร็ดความรู้พื้นฐานของ Actuator กระบอกสูบไฮดรอลิก
เกร็ดความรู้พื้นฐานของ Actuator กระบอกสูบไฮดรอลิก
อย่างที่ผู้อ่านทราบกันดีว่า Actuator คือส่วนประกอบกระบอกสูบไฮดรอลิกที่แปลงพลังงานของไหลให้เป็นการเคลื่อนไหวในเครื่องจักรกล ซึ่ง Actuator มีบทบาทสำคัญในการเคลื่อนย้ายและควบคุมกลไกหรือระบบการทำงาน
โดยทั่วไป เราสามารถจัดประเภทของ Actuator ได้เป็นสามประเภท: Actuator ไฮดรอลิก Actuator นิวเมติกส์ และ Actuator ไฟฟ้า การจัดหมวดหมู่นี้ขึ้นอยู่กับชนิดของพลังงานที่แปลงเป็นการเคลื่อนที่เชิงกล ใน Actuator ไฮดรอลิกจะใช้ของไหลไฮดรอลิกที่มีแรงดันหรือน้ำมันไฮดรอลิก ส่วนในตัวกระตุ้นแบบนิวเมติกส์จะใช้ลมอัด และใน Actuator ไฟฟ้า พลังงานไฟฟ้าจะถูกแปลงเป็นการเคลื่อนที่ ตัวอย่างทั่วไปของ Actuator ทั้งสามหมวดหมู่คือ กระบอกสูบไฮดรอลิก แจ็คสกรู Stepper motor และมอเตอร์ไฟฟ้า เป็นต้น
ซึ่งในบทความนี้แอดมินจะมาอธิบายเกี่ยวกับ Actuator กระบอกสูบไฮดรอลิก และความแตกต่างระหว่าง Actuator กระบอกสูบไฮดรอลิก กับ Actuator กระบอกลมนิวเมติกส์กันค่ะ
สารบัญ
- Actuator กระบอกสูบไฮดรอลิก
- ความแตกต่างระหว่าง Actuator กระบอกสูบไฮดรอลิก Vs Actuator กระบอกลมนิวเมติกส์
- บทสรุป
Actuator กระบอกสูบไฮดรอลิก
Actuator กระบอกสูบไฮดรอลิก เป็นหมวดหมู่ยอดนิยมที่มีการใช้งานในงานหนัก ๆ และเหมาะสำหรับการก่อสร้างทางทะเล การก่อสร้างนอกชายฝั่ง การขนส่ง และอุตสาหกรรมการทหาร ใน Actuator กระบอกสูบไฮดรอลิก น้ำมันไฮดรอลิก ที่จะถูกใช้และถูกเพิ่มแรงดันสูงสุดเพื่อแปลงพลังงานไฮดรอลิก เป็นแรงทางกลที่มีประสิทธิภาพ ตัว Actuator นี้สามารถสร้างแรงขนาดใหญ่ และ Output ของมันจะเป็นแบบเชิงเส้น แบบหมุน หรือแบบออสซิลเลเตอร์ (oscillatory)
หากพิจารณาถึงข้อเสียของตัว Actuator กระบอกสูบไฮดรอลิก ความกังวลหลักคือการรั่วไหลของน้ำมันไฮดรอลิก ทำให้พื้นที่ทำงานสกปรกและส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ทำงานได้ ส่วนข้อกังวลอื่น ๆ คือการลงทุนเริ่มต้นและค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่ค่อนข้างสูงค่ะ
ความแตกต่างระหว่าง Actuator กระบอกสูบไฮดรอลิก Vs Actuator กระบอกลมนิวเมติกส์
การทำงานพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับตัวActuator ทั้งแบบไฮดรอลิกและนิวเมติกส์มีความคล้ายคลึงกัน และในบางกรณีก็สามารถใช้แทนกันได้ แต่ถ้าให้พิจารณาถึงความแตกต่างระหว่างตัว Actuator ทั้งสองประเภทนี้ สิ่งสำคัญคือตัวกลางที่ใช้ในการแปลงพลังงานค่ะ น้ำมันไฮดรอลิกเป็นตัวกลางที่ใช้ใน Actuator กระบอกสูบไฮดรอลิก และ Actuator นิวเมติกส์ ลมอัดจะถูกใช้เพื่อแปลงเป็นการเคลื่อนที่เชิงกลค่ะ
ส่วนความแตกต่างที่สำคัญอื่น ๆ ได้แก่
- ตัวกระตุ้น (Actuator) แบบนิวเมติกส์มีประสิทธิภาพน้อยกว่าระบบไฮดรอลิก
- Actuator กระบอกสูบไฮดรอลิก สามารถผลิตแรงได้มากกว่านิวเมติกส์ ถึง 25 เท่า
- สำหรับการใช้งานที่ต้องการแรงดันและความเร็วต่ำกว่า แอดมินแนะนำให้ใช้ตัวกระตุ้นแบบนิวเมติกส์
- ตัวกระตุ้นแบบนิวเมติกส์สามารถตอบสนองความต้องการด้านความปลอดภัยทางกลได้อย่างง่ายดาย
- ตัวกระตุ้นแบบไฮดรอลิกเหมาะสำหรับงานที่มีกำลังสูง ในขณะที่ตัวกระตุ้นแบบนิวเมติกส์สามารถใช้กับงานที่มีอุณหภูมิสูงได้
- Actuator ไฮดรอลิกมีความสามารถในการรักษาแรงและแรงบิดให้คงที่ได้ดีกว่า
- Actuator ไฮดรอลิกให้การเคลื่อนที่เชิงเส้นที่แม่นยำเมื่อเปรียบเทียบกับนิวเมติกส์
- ตัวกระตุ้นแบบนิวเมติกส์นั้นคุ้มค่าและต้องการการบำรุงรักษาต่ำกว่า
- หากมีการทำงานซ้ำ ๆ แอดมินแนะนำให้ใช้ตัวกระตุ้นแบบนิวเมติกส์
- ตัวกระตุ้นแบบนิวเมติกส์สามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงกว่าเมื่อเทียบกับตัวกระตุ้นแบบไฮดรอลิก
- ตัวกระตุ้นแบบนิวเมติกส์เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตรายมากกว่า
บทสรุป
Actuator คือส่วนประกอบกระบอกสูบไฮดรอลิกที่แปลงน้ำมันไฮดรอลิกให้เป็นการเคลื่อนไหวในเครื่องจักรกล ซึ่ง Actuator มีบทบาทสำคัญในการเคลื่อนย้ายและควบคุมกลไกหรือระบบการทำงาน โดยส่วนมากจะนิยมใช้ Actuator ไฮดรอลิกที่ต้องใช้แรงมากหรือเครื่องจักรกลที่มีขนาดใหญ่และหนัก แต่ข้อเสียของ Actuator ไฮดรอลิก คือการรั่วไหลของน้ำมันไฮดรอลิก รวมไปถึงต้นทุนและค่าบำรุงรักษาที่สูงกว่า ตัว Actuator นิวเมติกส์มาก
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับเกร็ดความรู้พื้นฐานของ Actuator กระบอกสูบไฮดรอลิก หวังว่าผู้อ่านทุกท่านจะสามารถนำความรู้ในบทความนี้ไปใช้ประโยชน์และต่อยอดได้นะคะ และบทความหน้าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร อย่าลืมติดตามตอนต่อไปกันนะคะ
สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบไฮดรอลิก ไม่ว่าจะเป็น กระบอกสูบไฮดรอลิก วาล์วไฮดรอลิก และปั๊มไฮดรอลิก Thai-A เราเป็นโรงงานผลิตกระบอกสูบไฮดรอลิก และเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบไฮดรอลิกมายาวนานกว่า 50 ปี เรายินดีรับผลิตกระบอกสูบไฮดรอลิก และรับผลิตกระบอกสูบไฮดรอลิกตามสั่ง
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency
ระบบไฮดรอลิกใช้กับการควบคุมอะไรบ้าง ?
ระบบไฮดรอลิกใช้กับการควบคุมอะไรบ้าง ?
คุณสมบัติที่ดีของระบบไฮดรอลิกคือ ให้แรงในการทำงานมากเมื่อเปรียบเทียบกับน้ำหนักของปั๊มกระบอก หรือมอเตอร์ไฮดรอลิกมีความนิ่มนวลขณะทำงาน ถึงแม้กระบอกหรือมอเตอร์ไฮดรอลิกจะรับภาระที่มีน้ำหนักมาก ดังนั้นระบบไฮดรอลิกจึงนิยมนำมาใช้เป็นระบบควบคุมและส่งถ่ายกับตัวเครื่องจักรต่างๆ ซึ่งเครื่องจักรที่ระบบไฮดรอลิกที่ใช้ควบคุมการทำงานและส่งถ่ายกำลังสามารถแบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้
1. เครื่องจักรที่เคลื่อนที่ (Mobile Machines)
คือ เครื่องจักรที่มีระบบควบคุมเป็นไฮดรอลิก เช่น รถขุด รถตัก รถคีบไม้ รถคีบ รถคีบอ้อย รถยนต์ รถบรรทุก รถทำงานเทศบาล รถยกของ เครื่องบิน เรือ เป็นต้น
2. เครื่องจักรที่ติดตั้งอยู่กับที่ (Base Machines)
เป็นเครื่องจักรที่มีระบบควบคุมแบบไฮดรอลิก มักจะอยู่ในโรงงานอุตสาหกรรม ส่วนใหญ่ติดตั้งอยู่กับที่เพื่อใช้งาน ไม่ได้มีการเคลื่อนย้ายบ่อยๆ โดยเครื่องจักรดังกล่าวจะมีการใช้งานการควบคุมจากตัวกระบอกสูบไฮดรอลิก เช่น
2.1 นำกระบอกสูบไฮดรอลิกไปใช้ในเครื่องเพรสไฮดรอลิก (Hydraulic Press) กดชิ้นงานให้ได้รูปร่างต่างๆ
ตามต้องการ
2.2 นำกระบอกสูบไฮดรอลิกมาใช้ปรับระดับการเติมวัตถุดิบในการผลิต
2.3 นำกระบอกสูบไฮดรอลิกมาใช้กับการควบคุมการทำงานในเครื่องฉีดพลาสติก
(Mould Injection Machine ) เช่น
- กระบอกสูบไฮดรอลิกใช้เลื่อนแม่พิมพ์
- กระบอกสูบไอดรอลิกใช้ดันแกนสกรูเกลียวในจังหวะการฉีดพลาสติก
- กระบอกสูบไฮดรอลิกใช้ดันชิ้นงานออกจากพิมพ์
- กระบอกสูบไฮดรอลิกใช้เลื่อนแท่นชุดฉีดพลาสติก
2.4 นำกระบอกสูบไฮดรอลิคมาใช้กับเครื่องมือกล (Machine Tools) เช่น
- กระบอกสูบไฮดรอลิกจับยึดชิ้นงาน
- กระบอกสูบไฮดรอลิกที่ใช้ควบคุมการเคลื่อนที่ของแท่นป้อนชิ้นงาน
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับความรู้เรื่องระบบไฮดรอลิกกับการควบคุม หวังว่าผู้อ่านทุกท่านจะสามารถนำความรู้ในบทความนี้ไปใช้ประโยชน์และต่อยอดได้นะคะ และบทความหน้าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร อย่าลืมติดตามตอนต่อไปกันนะคะ
สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบไฮดรอลิค ไม่ว่าจะเป็น กระบอกไฮดรอลิก วาล์วไฮดรอลิค และปั๊มไฮดรอลิค Thai-A เราเป็นโรงงานผลิตกระบอกสูบไฮดรอลิกและเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบไฮดรอลิคมายาวนานกว่า 50 ปี เรายินดีรับผลิตกระบอกสูบไฮดรอลิก และรับผลิตกระบอกสูบไฮดรอลิกตามสั่ง
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency
ผลิตกระบอกสูบไฮดรอลิกกับ Thai-A ดีกว่ายังไง ?
ผลิตกระบอกสูบไฮดรอลิกกับ Thai-A ดีกว่ายังไง ?
แอดมินเชื่อว่าในโรงงานอุตสาหกรรมทุกรูปแบบนั้นต่างก็รู้จักกระบอกสูบไฮดรอลิกและมีการนำมาประยุกต์ใช้ในงานอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างกว้างขวาง เพื่อทดแทนการใช้แรงงานจากคนและเพื่อการผลิตสินค้าที่ได้มาตรฐานมากยิ่งขึ้น
ทำไมต้องเลือกโรงงานผลิตกระบอกสูบไฮดรอลิกของ Thai-A
โรงงานผลิตอุปกรณ์และเครื่องจักร Thai-A สร้างขึ้นเพื่อให้บริการและจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องจักรที่เกี่ยวข้องกับระบบไฮดรอลิกที่ใช้ในอุตสาหกรรมและเครื่องจักรต่างๆ อย่างเช่น เครื่อง Press เครื่องจักรที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไป รับผลิตกระบอกสูบไฮดรอลิก กระบอกสูบไฮดรอลิก OEM ผลิตกระบอกสูบไฮดรอลิกตามสั่งได้อย่างรวดเร็ว ด้วยชุดประกอบกระบอกสูบไฮดรอลิกนำเข้าจากต่างประเทศ คุณภาพดีได้มาตรฐานสากล
ผลิตกระบอกสูบไฮดรอลิกกับ Thai-A ดีอย่างไร ?
เราเลือกใช้ชุดประกอบคุณภาพดีเยี่ยมนำเข้าจากต่างประเทศ
พร้อมให้คำปรึกษาด้านกระบอกสูบไฮดรอลิกโดยวิศวกรประสบการณ์กว่า 50 ปี
ออกแบบและผลิตกระบอกสูบไฮดรอลิกโดยช่างผู้ชำนาญการ
บริการหลังการขาย และการอบรมผลิตภัณฑ์ การให้คำปรึกษาและแนะนำด้วยทีมงานคุณภาพ
มีระบบตรวจสอบคุณภาพ และประสิทธิภาพสินค้าทุกชิ้นก่อนส่ง
บริษัทฯ ได้รับการรับรองมาตรฐานระบบบริหารคุณภาพ และการจัดการสิ่งแวดล้อม มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) และมาตรฐาน IEC
หมวดอุปกรณ์ไฮดรอลิก ประกอบไปด้วย
- ปั้มไฮดรอลิค (HYDRAULIC PUMPS)
- มอเตอร์ไฮดรอลิค
- วาล์วควบคุมทิศทาง (DIRECTIONAL CONTROL VALVES)
- วาล์วควบคุมอัตราการไหล (FLOW CONTROLS)
- วาล์วควบคุมทิศทางด้วยมือ (MANUALLY OPERATED DIRECTIONAL VALVES)
- วาล์วแบบซ้อน (MODULAR VALVES)
- กระบอกไฮดรอลิก (HYDRAULIC CYLINDERS, ACTUATORS)
- อุปกรณ์ไฮดรอลิกอื่นๆ (HYDRAULIC ACCESSORIES)
- วาล์วควบคุมความดัน (PRESSURE CONTROL VALVE)
สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบไฮดรอลิก ไม่ว่าจะเป็น กระบอกสูบไฮดรอลิก มอเตอร์ไฮดรอลิก และปั๊มไฮดรอลิก เรารับผลิตกระบอกไฮดรอลิก ผลิตกระบอกไฮดรอลิกตามสั่ง เพราะ Thai-A ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบไฮดรอลิกมายาวนานกว่า 50 ปี และเรามีทีมงานที่มากประสบการณ์คอยให้คำปรึกษาสำหรับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับระบบไฮดรอลิกอีกด้วย
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency
เคล็ดไม่ลับในการซ่อมแซมกระบอกไฮดรอลิก
เคล็ดไม่ลับในการซ่อมแซมกระบอกไฮดรอลิก
กระบอกสูบไฮดรอลิก เป็นหนึ่งในส่วนประกอบของระบบไฮดรอลิคที่มีความสำคัญต่อการทำงานของระบบ เนื่องจากกระบอกสูบไฮดรอลิก จะเป็นส่วนที่ส่งแรงที่ถูกสร้างขึ้นมาก่อนหน้านี้ไปยังส่วนประกอบต่าง ๆ ในระบบไฮดรอลิค เพื่อให้เครื่องจักร หรือเครื่องยนต์มีการทำงานและเกิดการเคลื่อนที่ได้นั่นเองค่ะ โดยส่วนมากกระบอกสูบไฮดรอลิกจะนำมาใช้เพื่อการยก หยิบ และจับ ของเครื่องจักรกลค่ะ
สารบัญ
- 3 ขั้นตอนในการซ่อมแซมกระบอกสูบไฮดรอลิค
- เคล็ดลับในการซ่อมแซมกระบอกสูบไฮดรอลิค
- สรุป
ส่วนประกอบขั้นพื้นฐานของระบบไฮดรอลิค ได้แก่ กระบอกสูบไฮดรอลิก วาล์ว และตัวกรอง เป็นต้น โดยกระบอกสูบไฮดรอลิกเป็นอุปกรณ์ที่มีความซับซ้อนน้อยที่สุด จึงง่ายต่อการบำรุงรักษาและซ่อมแซม
หากผู้อ่านมีความรู้ขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับระบบไฮดรอลิคแล้วล่ะก็ คุณสามารถซ่อมแซมกระบอกสูบไฮดรอลิกได้ด้วยตัวเอง แต่ก่อนที่แอดมินจะลงลึกถึงวิธีการซ่อมแซมกระบอกสูบไฮดรอลิก แอดมินอยากจะบอกถึงสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้กระบอกสูบทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควรกันก่อนค่ะ
ความเสียหายของซีลเป็นสาเหตุทั่วไปที่สร้างความเสียหายให้กับกระบอกสูบไฮดรอลิก ซึ่งความเสียหายของซีลเกิดขึ้นจากการใส่อุปกรณ์ที่ไม่ถูกต้อง การกัดกร่อน ระยะห่างของงานโลหะที่ไม่เหมาะสม อีกทั้งการปนเปื้อนของของเหลวจะทำให้ก้านลูกสูบหรือพื้นผิวซีลเสียหาย การจัดตำแหน่งกระบอกสูบและน้ำหนักที่ไม่เหมาะสมจะทำให้ตลับลูกปืนก้านสูบหรือก้านลูกสูบเสียหาย และการสึกกร่อนของกระบอกสูบจากภายในทำให้เกิดการปนเปื้อนของของเหลว ซึ่งสิ่งที่กล่าวมานี้เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดค่ะ
3 ขั้นตอนในการซ่อมแซมกระบอกสูบไฮดรอลิก
- ก่อนดำเนินการซ่อมทุกครั้ง ผู้อ่านต้องทำความสะอาดพื้นผิว และถอดสายยางและปลั๊กที่ติดกับพื้นผิวออกก่อน
- เมื่อถอดชิ้นส่วนออกหมดแล้ว ให้ถ่ายของเหลวทั้งหมดที่อยู่ภายในกระบอกสูบออก
- ซ่อมแซมกระบอกสูบไฮดรอลิก โดยเตรียมค้อนยาง ไขควง หมัด คีม ผ้าทราย และประแจ ให้พร้อม เพราะเป็นสิ่งที่คุณต้องใช้ในการซ่อมแซมค่ะ
เคล็ดลับในการซ่อมแซมกระบอกสูบไฮดรอลิก
- เมื่อคุณถอดแยกชิ้นส่วนกระบอกสูบไฮดรอลิกเพื่อซ่อมแซมแล้ว ให้ถือโอกาสตรวจสอบส่วนประกอบอื่น ๆ ทั้งหมดอย่างละเอียดด้วย ไม่ใช่ตรวจสอบแค่ชิ้นส่วนที่ชำรุดเท่านั้น
- อย่าลืมประกอบแถบสึกหรอของไฮดรอลิค หรือ (Wear bands) เพื่อลดการเสียดสีสัมผัสระหว่างโลหะ กับโลหะ
- หากซีลชำรุดก่อนเวลาอันควร ให้รู้ไว้เลยว่า แกนลูกสูบมีการโค้งงอ ฉะนั้นต้องแก้ไขที่แกนลูกสูบด้วย
- เครื่องมือโลหะจะขูดพื้นผิวของกระบอกสูบและจะสร้างปัญหาเช่นการกัดกร่อน ดังนั้นควรเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการซ่อมเสมอ
- กระบอกสูบไฮดรอลิกขนาดใหญ่จะใช้สปริงแรงดันสูงในการทำงาน ดังนั้นหากคุณไม่มีประสบการณ์ ให้ระมัดระวังในการจัดการกับกระบอกสูบดังกล่าว
- หากคุณต้องการเปลี่ยนซีล คุณไม่ควรวัดขนาดของซีลอันเดิมที่ใช้อยู่ เพราะขนาดของซีลจะขยายหรือบีบอัด เปลี่ยนไปตามสภาวะแวดล้อม
สรุป
หากผู้อ่านพบว่ากระบอกสูบไฮดรอลิกของคุณมีปัญหา และทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร คุณควรทำการตรวจสอบถึงสาเหตุ และวินิจฉัยหาข้อสรุปว่า ความเสียหายของกระบอกสูบนั้นเกิดขึ้นเพราะเหตุใด เพื่อที่จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด หากไม่มั่นใจคุณควรให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นคนแก้ไขดีกว่าค่ะ และถ้าคุณอยากลดความเสียหายและยืดอายุการใช้งานของกระบอกสูบไฮดรอลิก แอดมินแนะนำให้ผู้อ่านปฏิบัติดูแลรักษาระบบไฮดรอลิค ตามคู่มือแนะนำ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับเคล็ดลับการซ่อมแซมกระบอกสูบไฮดรอลิก หวังว่าผู้อ่านทุกท่านจะสามารถนำความรู้ในบทความนี้ไปใช้ประโยชน์และต่อยอดได้นะคะ และบทความหน้าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร อย่าลืมติดตามตอนต่อไปกันนะคะ
สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบไฮดรอลิค ไม่ว่าจะเป็น กระบอกสูบไฮดรอลิก วาล์วไฮดรอลิค และปั๊มไฮดรอลิค Thai-A เราเป็นโรงงานผลิตกระบอกสูบไฮดรอลิก และเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบไฮดรอลิกมายาวนานกว่า 50 ปี เรายินดีรับผลิตกระบอกสูบไฮดรอลิก และรับผลิตกระบอกสูบไฮดรอลิกตามสั่ง
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency
สาเหตุและการแก้ไขเมื่อกระบอกสูบไฮดรอลิคตก
สาเหตุและการแก้ไขเมื่อกระบอกสูบไฮดรอลิคตก
ระบบไฮดรอลิคเป็นระบบที่ใช้ในงานที่มีแรงโหลดหนัก และปัญหาสามารถเกิดขึ้นได้ไม่ว่าจะเป็นปัญหาของตัวกระบอกสูบไฮดรอลิก หรือปัญหาจากอุปกรณ์อื่นๆ ภายในระบบ ฉะนั้นก่อนจะแก้ปัญหาเรามาดูกันว่าปัญหากระบอกสูบไฮดรอลิคตกนั้นเกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง และมีวิธีแก้ไขเบื้องต้นอย่างไร
สาเหตุและการแก้ไขเมื่อกระบอกสูบไฮดรอลิกตก
กระบอกสูบไฮดรอลิกเมื่อใช้ไปสักระยะแล้วพบอาการของตัวกระบอกสูบไฮดรอลิกตก มักเกิดจากการรั่วซึมส่วนใดส่วนหนึ่งของน้ำมัน ขั้นตอนการตรวจเช็คควรเริ่มจากระบบท่อกลาง หากไม่มีการรั่วซึมนั้นสามารถบอกได้ว่าสาเหตุของกระบอกสูบไฮดรอลิกตกอาจเกิดปัญหาการรั่วซึมจากภายในกระบอก หรือตัวคอนโทรลวาล์วนั่นเอง แต่หากเกิดขึ้นจากภายในกระบอกสูบไฮดรอลิกสามารถเช็กดูได้จาก
- ซีลลูกสูบเสียหาย หากเกิดซีลลูกสูบเสียหายอาจทำให้น้ำมันจากด้านหน้าลูกสูบไหลมายังด้านหลังของลูกสูบเป็นเหตุทำให้กระบอกสูบไฮดรอลิคตก
- กระบอกสูบไฮดรอลิกมีรอยภายใน การรั่วซึมอาจเกิดจากกระบอกสูบไฮดรอลิกมีรอยภายใน เกิดได้จากลูกสูบไปสีกับกระบอกทำให้กระบอกเป็นรอยหรือการใช้ความดันมากเกินไปทำให้กระบอกบวม และทำให้น้ำมันไหลมาจากหน้าลูกสูบไปด้านหลังลูกสูบ แก้ไขได้ด้วยการถอดกระบอกสูบไฮดรอลิกแล้วสำรวจเสื้อกระบอกสูบไฮดรอลิคมีอาการบวมหรือเป็นรอยหรือไม่ ตรวจสอบซีลกระบอก ซีลลูกสูบว่ามีรอยหรือฉีกขาดไหมและทำการเปลี่ยนหากพบปัญหา
- แกนกระบอกสูบไฮดรอลิกงอ หากเกิดจากแกนกระบอกสูบไฮดรอลิกงอ อาจมาจากสาเหตุการเลือกแกนขนาดไม่เหมาะสม หรือใช้งานโอเวอร์โหลดทำให้แกนกระบอกรับภาระน้ำหนักมากเกินจนทำให้แกนงอ แก้ไขด้วยการหยุดใช้งานและเปลี่ยนแกนทันทีเพื่อไม่ให้ส่งผลเสียกับเสื้อกระบอกสูบไฮดรอลิก
- น้ำมันรั่วออกตามแนวแกน สาเหตุนี้อาจมาจากตัวแกนกระบอกสูบไฮดรอลิกเป็นรอยจากการถูกกระทบวัตถุอื่น หรือการใช้งานมานานจนผิวแกนมีความบางลงไป และอีกสาเหตุจากฝาหน้าเสื่อมสภาพ ควรตรวจเช็กและทำการเปลี่ยน
- หูกระบอกไฮดรอลิคสึก ตรวจสอบหูกระบอกว่ามีการสึกหรอหรือไม่ เพราะเมื่อมีการสึกหรออาจส่งผลกับการเคลื่อนที่ของแกนกระบอกสูบไฮดรอลิกและทำให้น้ำมันแทรกตัวออกมาได้ เนื่องจากแกนกระบอกเบียดไปข้างใดข้างนึง
สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบไฮดรอลิค ไม่ว่าจะเป็น กระบอกสูบไฮดรอลิก วาล์วไฮดรอลิค และปั๊มไฮดรอลิค เป็นต้น Thai-A เราคือผู้นำด้านอุปกรณ์ระบบไฮดรอลิก นำเข้าสินค้าไฮดรอลิคจากผู้ผลิตกระบอกสูบไฮดรอลิก อุปกรณ์ไฮดรอลิคมายาวนานกว่า 50 ปี และเรามีทีมงานที่มากประสบการณ์คอยให้คำปรึกษาสำหรับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับระบบไฮดรอลิกอีกด้วย
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@teacgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency
ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการกันกระแทกกระบอกสูบไฮดรอลิก
ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการกันกระแทกกระบอกสูบไฮดรอลิก
หนึ่งในส่วนประกอบที่สำคัญที่สุด และพบบ่อยที่สุดในระบบไฮดรอลิค คือ กระบอกสูบไฮดรอลิก ที่ยืดออกและหดกลับด้วยแรงดันของของเหลว ทำให้สามารถยก ดึง และผลักของหนักได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
บาร์เรล (Barrel) ลูกสูบ (Piston) และก้านลูกสูบ (Piston rod) เป็นส่วนประกอบหลักของกระบอกสูบไฮดรอลิก ลูกสูบที่ติดอยู่กับก้านลูกสูบจะเคลื่อนไปมาผ่านกระบอกสูบด้วยการกระทำของการรับและการกำจัดของเหลว ระหว่างการรับของเหลว ก้านลูกสูบจะยืดออก และเมื่อของเหลวไหลออก ก้านลูกสูบจะหดกลับ การทำงานแต่ละครั้งหมายความว่าจะมีการเคลื่อนไหวของก้านลูกสูบผ่านกระบอกสูบ การทำงานอย่างต่อเนื่องภายใต้แรงดันสูงนี้ อาจส่งผลต่ออายุการใช้งานของกระบอกสูบไฮดรอลิกได้ เนื่องจากการสั่นสะเทือน หรือแรงกระแทกที่เกิดจากกระบวนการที่ได้กล่าวไปข้างต้นนี้ ฉะนั้นในบทความนี้แอดมินจะบอกถึงความสำคัญของตัวกันกระแทกในกระบอกสูบไฮดรอลิก ที่สามารถลดความเสียหาย และยืดอายุให้กับกระบอกสูบได้กันค่ะ
ตัวกันกระแทก (CUSHIONING) ของกระบอกสูบไฮดรอลิกคืออะไร
การกันกระแทกกระบอกสูบไฮดรอลิกเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้ลูกสูบเคลื่อนที่ช้าลงเมื่อถึงจุดสิ้นสุดของจังหวะ ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้กับทั้งกระบอกลมนิวเมติกส์และไฮดรอลิกเพื่อลดความเสียหายที่เกิดจากคลื่นกระแทกจากแรงดันลม
ลูกสูบกันกระแทกส่วนมากจะติดอยู่กับแกนลูกสูบ ทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์สูบจ่ายที่ชะลอความเร็วของกระบอกสูบก่อนที่จะกระทบที่ฝาท้าย การชะลอตัวนี้เกิดขึ้นเนื่องจากการจำกัดการไหลของของไหลที่เกิดจากลูกสูบ ซึ่งข้อดีของการกันกระแทกกระบอกสูบไฮดรอลิก ก็คือ
- ยืดอายุการใช้งานของกระบอกสูบ
- ลดเสียงรบกวนที่ไม่พึงประสงค์
- กระบวนการลดความเร็วส่วนใหญ่เป็นแบบอัตโนมัติ ปรับได้ และไม่จำเป็นต้องบำรุงรักษามากนัก
- นิยมใช้ในการเคลื่อนย้ายของหนักที่ต้องใช้ความเร็วสูง
ตัวที่กำหนดว่าเราจำเป็นต้องมีตัวกันกระแทกกระบอกสูบไฮดรอลิกหรือไม่นั้น คือค่าพลังงานจลน์ พลังงานจลน์นี้จะขึ้นอยู่กับสองพารามิเตอร์ นั่นก็คือ มวลเคลื่อนที่ (Moving mass) และความเร็ว (Speed) โดยสมการในการคำนวณพลังงานจลน์ คือ
E = ½*m*v 2
เมื่อก้านลูกสูบกระบอกสูบเข้าใกล้จุดสิ้นสุดของจังหวะการกระแทก พลังงานจลน์จะถูกแปลงเป็น
E = Fa*ΔL
โดยที่ Fa คือแรงกันกระแทกที่เกิดจากระยะยุบตัวของ ΔL นั่นเองค่ะ
โดยทั่วไปแล้ว การกันกระแทกของกระบอกสูบจะถูกใช้กับกระบอกสูบแบบ double-act ที่ใช้ในงานหนัก ๆ เช่น เครนขนถ่ายสินค้า หรือเครนเคลื่อนที่สำหรับจอดเรือ เป็นต้นค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง
- วิธีการซ่อมแซมกระบอกสูบไฮดรอลิคเบื้องต้น
- กระบอกสูบไฮดรอลิคขนาดเล็ก ทางเลือกใหม่ของงานอุตสาหกรรม
- หลักการทำงานของกระบอกสูบไฮดรอลิค
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับความรู้เรื่องการกันกระแทกกระบอกสูบไฮดรอลิก หวังว่าผู้อ่านทุกท่านจะสามารถนำความรู้ในบทความนี้ไปใช้ประโยชน์และต่อยอดได้นะคะ และบทความหน้าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร อย่าลืมติดตามตอนต่อไปกันนะคะ
สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบไฮดรอลิค ไม่ว่าจะเป็น กระบอกสูบไฮดรอลิก วาล์วไฮดรอลิค ปั๊มไฮดรอลิค และสายไฮดรอลิค Thai-A เราเป็นโรงงานผลิตกระบอกสูบไฮดรอลิค และเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบไฮดรอลิคมายาวนานกว่า 50 ปี เรายินดีรับผลิตกระบอกสูบไฮดรอลิก และรับผลิตกระบอกสูบไฮดรอลิกตามสั่ง
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@teacgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency
โครงสร้างพื้นฐานของกระบอกสูบไฮดรอลิค
โครงสร้างพื้นฐานของกระบอกสูบไฮดรอลิค
กระบอกสูบไฮดรอลิค ในระบบไฮดรอลิคการทำงานหลักๆ ของไฮดรอลิคนั้นคือส่วนที่เรียกว่ากระบอกสูบไฮดรอลิค อุปกรณ์นี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน รับแรงหน่วงได้ดี โดยการทำงานของกระบอกสูบไฮดรอลิคจะอาศัยหลักการเปลี่ยนพลังงานแรงดันของน้ำมันไฮดรอลิค จะส่งถ่ายพลังงานในแนวเชิงเส้น กระบอกสูบไฮดรอลิคนั้นสามารถแบ่งได้เป็นสองประเภทตามทิศทางของแรงที่กระทำบนลูกสูบคือ Single Acting Cylinder และ Double Acting Cylinder
โครงสร้างโดยทั่วไปของกระบอกสูบไฮดรอลิคมีอะไรบ้าง
Rod Hard Chrome : ก้านกระบอกสูบไฮดรอลิค
Front cover : ฝาหัว
Barrel : เสื้อกระบอกสูบไอดรอลิค
Tri rod : เสารั้งกระบอกสูบไฮดรอลิค
Back cover : ฝาท้าย
Wiper Seal : ซีลกันฝุ่น
Bushing : บูช
U-Ring Seal : ซีลกันก้านสูบ
Piston Seal : ซีลลูกสูบ
Back up ring : ซีลกันสึก
O-ring : ซีลฝา หัว-ท้าย
การทำงานของกระบอกสูบไฮดรอลิค
1. 1. กระบอกสูบทางเดียว (Single acting cylinder) กระบอกสูบไฮดรอลิคทางเดียว ทำงานโดยการรับน้ำมันจากกระบอกสูบทางด้านหัวเพียงทางเดียว เพื่อผลักดันให้ลูกสูบและก้านสูบเคลื่อนที่ไปดันชิ้นงาน โดยจะใช้แรงดันจากสปริงหรือลงด้วยโหลด เป็นตัวผลักดันให้ลูกสูบค่อยๆ เคลื่อนที่กลับอย่างช้า
2. กระบอกสูบสองทาง(Double acting cylinder) กระบอกสูบสองทาง ทำงานโดยรับน้ำมันจากกระบอกสูบได้ทั้งด้านหัวและด้านก้านสูบ โดยจะแบ่งการทำงานเป็น 2 ลักษณะคือ
- ลูกสูบเคลื่อนที่ออกเพื่อผลักดันชิ้นงาน โดยให้น้ำมันเข้าทางด้านหัวลูกสูบและให้น้ำมันออกทางด้านก้านสูบ
- ลูกสูบเคลื่อนที่เข้าเพื่อดึงชิ้นงานกลับเข้ามา โดยให้น้ำมันเข้าทางด้านก้านสูบและให้น้ำมันออกทางด้านหัวลูกสูบ
ระบบไฮดรอลิคจะต้องมีอุปกรณ์พื้นฐานในการทำงาน ดังนี้
1.ปั๊มไฮดรอลิค (Hydraulic Pump) = ปั๊มไฮดรอลิค ทําหน้าที่ในการเปลี่ยนพลังงานกลให้เป็นพลังงานการไหลของน้ำมันไฮดรอลิคภายใต้ความดัน โดยทั่วไปต้นกําลังที่่ขับปั๊มไฮดรอลิคจะมาจากมอเตอร์ไฟฟ้า
2.ถังพักน้ำมันไฮดรอลิค (Oil Reservoir) = ถังพักน้ำมันไฮดรอลิค ทําหน้าที่เก็บน้ำมันไฮดรอลิครวมถึงเป็นที่พักของน้ำมันไฮดรอลิคที่ผ่านอุปกรณ์ต่างๆ และไหลกลับมายังถังพักน้ำมันไฮดรอลิค เพื่อใช้งานการหมุนเวียน
3.อุปกรณ์ปรับปรุงคุณภาพของน้ำมันไฮดรอลิค (Filter and Oil Cooler) = อุปกรณ์ปรับปรุงคุณภาพของน้ำมัน ได้แก่ ชุดกรองน้ำมันไฮดรอลิค มีหน้าที่กรองสิ่งสกปรกของน้ำมันไฮดรอลิคไม่ให้เข้าไปยังอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงชุดระบายความร้อนของน้ำมันไฮดรอลิค
4.วาล์วควบคุมความดัน (Pressure Control Valve) = วาล์วควบคุมความดันในระบบไฮดรอลิค มีหน้าที่ควบคุมความดันให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย กําหนดระดับความดันในการใช้งาน จัดเรียงลำดับความดันในการใช้งาน และเพื่อลดโหลดหรือภาระของปั๊ม
5.วาล์วควบคุมทิศทาง (Directional Control Valve) = วาล์วควบคุมทิศทาง ทําหน้าที่ในการควบคุมทิศทางการไหลของน้ำมันไฮดรอลิคให้หยุดหรือไปตามทิศทางที่ต้องการ เพื่อให้วงจรหรืออุปกรณ์ทํางานต่างๆ สามารถเคลื่อนที่ในทิศทางที่ถูกต้องตามต้องการ
6.วาล์วควบคุมการไหล (Flow Control Valve) = วาล์วควบคุมการไหล ทําหน้าที่ในการควบคุมอัตราการไหลของน้ำมันที่จะจ่ายให้กับอุปกรณ์ทํางานต่างๆ เพื่อที่จะควบคุมความเร็วได้ตามความต้องการ
7.อุปกรณ์ทำงาน (Actuator) = อุปกรณ์ทํางานในระบบไฮดรอลิค ทําหน้าที่ในการเปลี่ยนพลังงานของของไหลหรือน้ำมันไฮดรอลิคให้เป็นพลังงานกล ซึ่งอยู่ในรูปของการเคลื่อนที่
8.ท่อ ข้อต่อและสายไฮดรอลิค (Tube Fitting and Hose) = ท่อ ข้อต่อและสายไฮดรอลิค ทําหน้าที่เป็นเส้นทางการไหลของน้ำมันไฮดรอลิคในระบบ
บทความที่เกี่ยวข้อง
- วิธีการซ่อมแซมกระบอกสูบไฮดรอลิคเบื้องต้น
- กระบอกสูบไฮดรอลิคขนาดเล็ก ทางเลือกใหม่ของงานอุตสาหกรรม
- หลักการทำงานของกระบอกสูบไฮดรอลิค
สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบไฮดรอลิค ไม่ว่าจะเป็น กระบอกสูบไฮดรอลิค วาล์วไฮดรอลิค และปั๊มไฮดรอลิค Thai-A เราเป็นโรงงานผลิตกระบอกสูบไฮดรอลิค และเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบไฮดรอลิคมายาวนานกว่า 50 ปี เรายินดีรับผลิตกระบอกสูบไฮดรอลิค และรับผลิตกระบอกสูบไฮดรอลิคตามสั่ง
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@teacgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency
วิธีการซ่อมแซมกระบอกสูบไฮดรอลิคเบื้องต้น
วิธีการซ่อมแซมกระบอกสูบไฮดรอลิคเบื้องต้น
กระบอกสูบไฮดรอลิคเป็นหนึ่งในสี่ส่วนประกอบที่สำคัญในการทำงานของระบบไฮดรอลิค โดยกระบอกสูบไฮดรอลิคจะเป็นตัวกระตุ้นเชิงกลในเครื่องจักร ทำให้เกิดแรงในการเคลื่อนที่ แต่ปัญหาหลักของผู้ใช้ระบบ ไฮดรอลิคส่วนใหญ่ คือการเสียเงินไปกับการซื้ออะไหล่กระบอกสูบไฮดรอลิคทุกปี เพื่อเปลี่ยนอะไหล่ที่ชำรุด แต่ผู้อ่านทราบหรือไม่คะว่า ในหลาย ๆ กรณี เราสามารถหลีกเลี่ยงอะไหล่สำรองได้ด้วยการบำรุงรักษาและการซ่อมแซมอย่างเหมาะสมค่ะ ซึ่งในบทความนี้แอดมินจะ บอกถึงสูตรที่ไว้ใช้ในการซ่อมแซมกระบอกสูบไฮดรอลิคเบื้องต้นกันค่ะ
วิธีการซ่อมแซมกระบอกสูบไฮดรอลิคเบื้องต้น
กระบอกสูบไฮดรอลิค เป็นส่วนประกอบที่ซับซ้อนน้อยที่สุดในระบบไฮดรอลิคของเครื่องจักร ทำให้การซ่อมแซมกระบอกสูบที่ชำรุดนั้น ไม่จำเป็นต้องมีราคาแพงเสมอไป เสือบเนื่องจากสิ่งสกปรกที่เป็นอนุภาคของแข็ง ไม่ว่าจะเป็นเศษโลหะ ชิ้นส่วนเศษผงตลอดจนความชื้น และอากาศที่ เล็ดลอดเข้าไปปะปนใน น้ำมันไฮดรอลิค สามารถก่อให้เกิดการสึกหรอ และ การสึกกร่อน ของปั๊มไฮดรอลิค ซึ่งเป็นสาเหตุที่มักพบอยู่บ่อยๆ ดังนั้นจึงควรระมัดระวังอย่างสม่ำเสมอใน เรื่อง ความสะอาดของ น้ำมันไฮดรอลิค ค่ะ
ซึ่งกระบวนการซ่อมแซมกระบอกสูบเบื้องต้น โดยทั่วไปแล้วจะใช้สูตรต่อไปนี้
- ฟลัชล้างทำความสะอาดระบบด้วย น้ำมันไฮดรอลิค ระบบไฮดรอลิคใหม่หรือหลังจากมีการถอดซ่อมบำรุงรักษา อาจมีสี โลหะสนิม ตลอดจนฝุ่นและทราย ที่ติดค้างอยู่ในระบบ
- ควรระมัดระวังในเรื่องเกี่ยวกับ ความสะอาดของ น้ำมัน โดยดูแลภาชนะ ปั๊มดูด ถังเก็บ ให้สะอาดอยู่เสมอ นอกจากนี้ต้องหมั่นทำความสะอาด ระบบกรองน้ำมัน หรือเมื่อเปลี่ยนไส้กรองชำรุด เมื่อล้างไส้กรองควรสังเกตดูสิ่งสกปรก ที่ติดอยู่ตามไส้กรองว่าเป็นอะไร หากมีเศษโลหะมาก แสดงว่าระบบมีการสึกหรอของสิ่งสกปรก อาจใช้เป็นแนวทางในการวิเคราะห์หาสาเหตุของการชำรุดสึกหรอ และจะได้เป็นแนวทางในการป้องกันต่อไป
- หมั่นตรวจตราการทำงานของระบบไฮดรอลิค ตลอดจนเสียงที่ดังผิดปกติ ซึ่งอาจบ่งบอกถึงอาการที่มีการรั่วของอากาศตามข้อต่อ หรือซีล หรือการเกิดโพรงอากาศในเรือนปั๊มถ้าจำเป็นจริง ๆ ที่ต้องหาอะไหล่ตัวใหม่มาแทนที่ ให้เปลี่ยนอะไหล่หรือชิ้นส่วนที่มีความเสียหาย เกินกว่าที่จะซ่อมแซมได้
ผู้อ่านรู้หรือไม่คะว่า การรั่วไหลที่เกิดจากซีลที่เสียหายเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยที่สุดในเครื่องจักรระบบไฮดรอลิค และซีลที่เสียหายอาจทำให้เกิดปัญหากับกระบอกสูบไฮดรอลิคได้หลายประการ เช่น การรั่วซึมของของเหลว การปนเปื้อนของไหล ซึ่งนำมาสู่ความเสียหายร้ายแรงต่อก้านลูกสูบ หรือพื้นผิวซีล เป็นต้น ส่วนความเสียหายอื่น ๆ เช่น การจัดตำแหน่งกระบอกสูบที่ไม่เหมาะสม หรือเพียงแค่ว่ามีการใช้กระบอกสูบอย่างไม่ถูกต้องในลักษณะที่ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้สำหรับงานนั้น ๆ อาจทำให้ก้านงอหรือกระบอกสูบบุบได้
ความเสียหายที่ได้กล่าวไปข้างต้นนั้น ผู้ที่มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับระบบไฮดรอลิคสามารถดำเนินการซ่อมแซมเบื้องต้นได้ แต่อย่างไรก็ตามแอดมินแนะนำให้ติดต่อผู้เชี่ยวชาญที่ไว้ใจได้เสมอ หากคุณมีข้อสงสัยหรือไม่มั่นใจ นอกจากนี้ การบำรุงรักษาที่เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอสามารถป้องกันกระบอกสูบไฮดรอลิคไม่ให้เกิดความเสียหายได้ อีกทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานของกระบอกสูบไฮดรอลิคอีกด้วยค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับความรู้เรื่องวิธีการซ่อมแซมกระบอกสูบไฮดรอลิคเบื้องต้น หวังว่าผู้อ่านทุกท่านจะสามารถนำความรู้ในบทความนี้ไปใช้ประโยชน์และต่อยอดได้นะคะ และบทความหน้าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร อย่าลืมติดตามตอนต่อไปกันนะคะ
สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบไฮดรอลิค ไม่ว่าจะเป็น กระบอกสูบไฮดรอลิค วาล์วไฮดรอลิค และปั๊มไฮดรอลิค Thai-A เราเป็นโรงงานผลิตกระบอกสูบไฮดรอลิค และเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบไฮดรอลิคมายาวนานกว่า 50 ปี เรายินดีรับผลิตกระบอกสูบไฮดรอลิค และรับผลิตกระบอกสูบไฮดรอลิคตามสั่ง
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@teacgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency
กระบอกสูบไฮดรอลิคขนาดเล็ก ทางเลือกใหม่ของงานอุตสาหกรรม
กระบอกสูบไฮดรอลิคขนาดเล็ก ทางเลือกใหม่ของงานอุตสาหกรรม
สำหรับงานยกย้าย เคลื่อนที่ หรือติดตั้งในโรงงานอุตสาหกรรม ระบบไฮดรอลิคจึงถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย อีกทั้งอุปกรณ์ที่มีชื่อว่ากระบอกสูบไฮดรอลิคได้มีการแข่งขันในตลาดมากยิ่งขึ้น
ผู้ผลิตกระบอกสูบไฮดรอลิคแต่ละรายต่างก็มองหาวิธีใหม่เพื่อที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ของตนเองนั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม จึงเกิดรูปแบบของกระบอกสูบไฮดรอลิคขนาดเล็ก หรือที่เรียกกันว่า กระบอกสูบไฮดรอลิคแบบสมาร์ท กำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในอุตสาหกรรมต่างประเทศ และมีการนำมาใช้งานกันอย่างแพร่หลายและต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีการผลิตกระบอกสูบไฮดรอลิคแบบใหม่ สามารถใช้งานได้ทั้งแบบเคลื่อนที่และแบบติดตั้งในอุตสาหกรรม กระบอกสูบไฮดรอลิคแบบสมาร์ท หรือ กระบอกไฮดรอลิคขนาดเล็ก นี้จะมีความทนทานสูงและสามารถรองรับการทำงานในช่วงอุณหภูมิที่กว้างกว่ากระบอกสูบไฮดรอลิคทั่วไป มีให้เลือกใช้ทั้งที่เป็นกระบอกสูบไฮดรอลิคแบบทางเดียวและกระบอกสูบไฮดรอลิคแบบสองทาง
การเลือกซื้อกระบอกสูบไฮดรอลิคขนาดเล็กมาติดตั้งนั้นจะมีหลักเกณฑ์การซื้ออยู่ด้วยกันหลายประการขึ้นอยู่กับการออกแบบและสภาพแวดล้อมการทำงาน เมื่อเราเลือกซื้อกระบอกสูบไฮดรอลิคขนาดเล็กมาใช้งานเราควรคำนึงถึงออปชั่นที่สำคัญต่างๆ ด้วยกันดังนี้:
- ตัวถังกระบอกสูบไฮดรอลิคจะต้องสามารถติดตั้งได้ง่ายและสามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งได้ในภายหลัง
- แกนก้านลูกสูบมีก้านสำหรับยึด/ติดตั้ง
- มีหูสำหรับช่วยยึดกับงานเพื่อเสริมความแข็งแรงให้กับกระบอกไฮดรอลิค
- มีแท่นสำหรับยึดตัวกระบอกไฮดรอลิค
- และออปชั่นอื่นๆ ตามที่ผู้ผลิตมีให้
บทความที่เกี่ยวข้อง
- หลักการทำงานของกระบอกสูบไฮดรอลิค
- ป้องกันสิ่งสกปรกเข้าระบบไฮดรอลิคอย่างไรดี ?
- ข้อควรคำนึงในการออกแบบกระบอกสูบไฮดรอลิค
ทางด้านการติดตั้งกระบอกสูบไฮดรอลิคขนาดเล็กนั้นจะคล้ายกับกระบอกไฮดรอลิคทั่วไป คือกระบอกสูบไฮดรอลิคส่วนใหญ่จะสามารถติดตั้งได้หลายรูปแบบอยู่แล้ว นั่นก็คือข้อดีอีกอย่างหนึ่งของกระบอกไฮดรอลิคที่เหล่าผู้ผลิตได้ออกแบบไว้เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า และประสิทธิภาพของกระบอกไฮดรอลิคแบบสมาร์ทนี้ก็ใกล้เคียงกับกระบอกลมหรือกระบอกไฮดรอลิคแบบทั่วไปมาก แต่จะต่างกันที่คุณสมบัติเพียงบางประการเท่านั้น
สุดท้ายในตลาดอุปกรณ์ไฮดรอลิคปัจจุบันมีกระบอกสูบไฮดรอลิคให้เราได้เลือกมาใช้งานหลายประเภท หากคุณยังเป็นมือใหม่ แนะนำให้คุณลองหาข้อมูลพื้นฐานในเรื่องที่คุณกำลังสนใจและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในการติดตั้งระบบไฮดรอลิค อย่าง Thai-A เราคือผู้นำด้านอุปกรณ์ระบบไฮดรอลิค นำเข้าสินค้าไฮดรอลิคจากผู้ผลิตกระบอกสูบไฮดรอลิค อุปกรณ์ไฮดรอลิคมายาวนานกว่า 50 ปี และเรามีทีมงานที่มากประสบการณ์คอยให้คำปรึกษาสำหรับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับระบบไฮดรอลิคอีกด้วย
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@teacgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency